วันที่ 23 ก.พ.65 เวลา 12.15 น. ร.ต.อ.ธรรมวัฒน์ สุขีวัฒน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า พบศพผู้เสียชีวิตอยู่บนรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง ที่บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ริมถนนสายบายพาส (เลี่ยงเมือง) ม.4 บ้านวังสารภี ต.ปากแพรก อ.เมืองฯ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภเมืองกาญจนบุรี ทราบเรื่อง จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล กิ่งทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ร่วมกับแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
ในที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุรุ่น FXZ360 สีน้ำเงินขาว ตัวแม่หมายเลขทะเบียน 82-8962 กาญจนบุรี ตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 82-2005 กาญจนบุรี ในกระบะพ่วงบรรทุกทรายทั้งตัวแม่และตัวลูกพ่วง ภายในห้องโดยสารของรถที่บริเวณเบาะด้านหลังคนขับ พบผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายนอนหงายเหยียดยาวในสภาพที่ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว ข้างลำตัวผู้ตายพบโทรศัพท์มือถือวางอยู่ 2 เครื่อง และพาวเวอร์แบงค์ 1 เครื่องตกอยู่ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำศพลงมาจากรถแพทย์ได้ทำการตรวจโควิด-19 แต่ผลเป็นลบ เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพไม่พบว่า ตามร่างกายของผู้ตายมีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย แพทย์ลงความเห็นเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชม.
ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนในกระเป๋ากางเกงของผู้ตาย ระบุชื่อนายณัฐวุฒิ จันทร์เพชร อายุ 46 ปี อยู่ ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี และเงินสด จำนวน 9,520 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อประสานญาติให้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ ส่วนศพ หากญาติติดใจสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต ก็จะนำส่งชันสูตรที่ รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง หากไม่ติดใจก็จะมอบศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
ด้าน นายเดชา ขำแผลง อายุ 42 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถ กล่าวว่า เมื่อวานตอนบ่ายผู้ตายนำรถบรรทุกพ่วงบรรทุกทรายเข้ามาซ่อมเปลี่ยนผ้าเบรครถ แต่ด้วยใช้เวลาซ่อมนาน และรออะไหล่จึงได้จอดนอนค้างคืนที่อู่ กะว่าซ่อมเสร็จแล้วจะขับรถขึ้นไปส่งทรายที่ร้านวัสดุก่อสร้างที่อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่ก็มาพบว่าเสียชีวิตเสียก่อน
ส่วนนายมงคล สุกีวนัส อายุ 47 ปี ช่างประจำอู่ กล่าวว่า เมื่อคืนวานประมาณสามทุ่มกว่าผู้ตายได้อาบน้ำแล้วเดินขึ้นรถบรรทุกไปเพื่อนอนพักผ่อน ไม่ได้ดื่มกินแต่อย่างใด พอตอนสายวันนี้ตนก็แปลกใจว่าทำไมผู้ตายไม่ลงมาจากรถจึงได้ตะโกนเรียก ก็ไม่มีเสียงตอบ เลยเปิดประตูรถดูพบว่า เสียชีวิตแล้ว
จึงได้โทรแจ้ง 191
ผู้สื่อข่าวตายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำศพลงจากรถบรรทุกพ่วงได้มีชาวบ้านระแวกดังกล่าวมามุงดูเหตุการณ์ และซื้อล็อตเตอรี่หมายเลขทะเบียนรถเพื่อเสี่ยงโชคอีกด้วย ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากผู้ตายขับรถบรรทุกหามรุ่งหามค่ำ จึงทำให้ผู้ตายเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันก็เป็นได้
