10 ธ.ค. 2565 | 00:12:56
นายสัตวแพทย์(น.สพ.) ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์เฟซบุ๊ก : ภัทรพล ล็อต มณีอ่อน ถึงอาการบาดเจ็บ “พังธันวา” ช้างน้อยที่พลัดหลงจากโขลงและเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายออกจากป่าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ด้วยเฮลิคอปเตอร์ นั้น
โดยมีข้อความระบุว่า
LotterAlternatives: “ทุเรียนไร้หนาม คือ ทุเรียนที่กลิ้งตกจากเขา” ร่องรอยบาดเจ็บที่แท้จริงของ พังธันวา ก็น่าจะประมาณนั้น เอามือแตะตรงไหนก็ร้อง จะนับบาดแผล รอยถลอก รอยฟกซ้ำ ระบม ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี โชคดีกระดูกไม่หัก ดูภาพเอาแล้วกัน ที่สำคัญน้องสู้มากๆ จะลุก จะยืน จะเดิน จะนอน ก็จะระบบไปหมด ต้องประคับประคองและระวังเรื่องภาวะแทรกซ้อน ขอบคุณการตัดสินใจช่วยเหลือ ณ วันนั้น ให้กำลังใจน้องธันวาและเจ้าหน้าที่ทุกคนกันครับ
ทั้งนี้พังธันวา ช้างน้อยที่พลัดหลงจากโขลง ล่าสุดได้อยู่ในความดูแลของทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากน้องยังอาการน่าเป็นห่วง
โดยมีรายงานภายใต้การกำกับการของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า วันที่ 8 ธ.ค. 2565 เขตห้ามล่าสัตว์ป่า
บึงฉวาก ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ขอรายงานการดูแลรักษาช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดหลง มีอาการป่วยและบาดเจ็บ ชื่อธันวา เพศเมีย รายละเอียดมีดังนี้
รายละเอียดการวางแผนปฏิบัติงานรักษา
น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่ ผอ.กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เข้าร่วมวางแผนงานการรักษากับทีมสัตวแพทย์ โดยให้แนวความคิดดังนี้
1.1 การใช้นวัตกรรมทางการแพทย์เข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาสัตว์
1.2 การรักษาความสะอาดให้ถูกสุขอนามัย ในการดูแลลูกสัตว์อย่างสม่ำเสมอ
1.3 การจัดตารางเวรทีมสัตวแพทย์จากกรมอุทยานฯ เพื่อดูแล/รักษาต่อเนื่อง
1.4 การประสานความร่วมมือกับสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และแนวทางการรักษา
รายละเอียดการดูแล/รักษามีดังนี้
1. ทำการให้สารน้ำเข้าทางหลอดเลือดดำ และใต้ผิวหนัง
2. ให้กินนมผงชนิด Enfalac ผสมยาขับลมชนิดไกรวอเตอร์ ทุก 2 ชม. เน้นกินน้อยแต่บ่อยครั้ง (กินปริมาณน้อยครั้งละ 400 มิลลิลิตร เนื่องจากกังวลสภาวะท้องอืดที่อาจจะเกิดตามมาได้ ถ้าให้ปริมาณมากเกินไปในแต่ละครั้ง)
3. ให้วิตามินบำรุงแบบฉีดเข้ากล้าม
4. ให้เกลือแร่ ชนิด ORS แบบกิน
5. ทำการให้เดินออกกำลังกายบนสนามหญ้าแบบไม่หักโหม (เช้า-เย็น)
หวังผลกระตุ้นการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร เพื่อป้องกันอาการท้องอืด
6. ยังคงมีอาการถ่ายเหลว และมีเนื้ออุจจาระเล็กน้อย (รอปรับสภาพระบบทางเดินอาหาร)
7. มีแรงในการเดินมากขึ้น เดินได้ไกลขึ้น แต่ยังคงต้องประคองเดิน มีแรงในการลุกนั่ง ลุกยืน มากขึ้นจากเดิม
8. ทำการเลเซอร์รักษาแผลบริเวณใบหน้า และลดอักเสบ ลดบวม ของแผลบริเวณสะดือ ส่วนแผลตามลำตัวอื่นๆแห้งดีแล้วจากการยิงแสงเลเซอร์รักษา ระยะเวลา 2 วัน
9. ทำการเจาะเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ (อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจเลือด)
ซึ่งทีมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ยังคงต้องดูแลลูกช้างป่า (ธันวา) อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง
เครดิต เพจภัทรพล ล็อต มณีอ่อน , NuNa Silpa-archa
Share this: