เผยแพร่:
ปรับปรุง:
กาญจนบุรี – ผ่อนปรนสินค้านำเข้า ส่งออก ชายแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน 2 วัน คาดเงินสะพัดวันละกว่าล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าส่งออก เนื่องจากประเทศเมียนมาไม่มีฐานการผลิตสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค
จากกรณี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 506/2564 เรื่อง ผ่อนผันการระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
โดยผ่อนปรนให้นำเข้าและส่งออกสิค้าอุปโภคและบริโภค การปศุสัตว์ สัตว์น้ำ สัตว์บก และสัตว์ปีกทุกชนิด สินค้าทางการเกษตร และสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันทุกประเภท ยกเว้น ยาสูบ และเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เฉพาะในวันพุธที่ 3-4 ก.พ.64 ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.ของวันดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้( 3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามบรรยากาศการนำเข้าส่งออกสินค้าที่บริเวณด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อไปถึงพบบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากยังไม่มีกลุ่มพ่อค้าแม่ขายน้ำสินค้ามาที่ด่านตรวจ แต่เมื่อถึงเวลาประมาณ 09.00-12.00 น.บรรยากาศเริ่มคักคัก เนื่องจากผู้ส่งออกชาวไทยเริ่มทยอยบรรทุกสินค้ามายังด่านตรวจ ตม.อย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าส่วนใหญ่เป็นเครื่องอุปโภคบริโภค ประเภทขนมขบเคี้ยว ไข่เป็ด ไข่ไก่ ผลไม้ รวมทั้งที่นอน และหมอน นอกจากสินค้าอุปโภคบริโภคแล้วยังมีการส่งออกสินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
ขณะเดียวกันมีรถกระบะ รวมทั้งรถบรรทุก 6 ล้อและ 10 ล้อ ตีรถเปล่าไปรับสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเมียนมาอีกจำนวนหลายคัน โดยสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทหอมแดง และอาหารทะเล โดยผู้ส่งออกและนำเข้าทั้งชาวไทยและเมียนมา ได้ผ่านการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหลักการของ Social Distancing และทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะทั้ง 2 ฝ่าย และได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้า – ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังต้องสแกน QR แอปไทยชนะ ทางโทรศัพท์มือถือ ที่ เจ้าหน้าที่ ตม.ประจำด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อนเตรียมเอาไว้ให้
โดยผู้ประกอบการทั้งหมดได้เปลี่ยนถ่ายสินค้าในลักษณะท้ายชนทายรถ ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ขณะเปลี่ยนถ่ายสินค้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและเมียนมา ได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด คาดว่าตลอดทั้งวันจะมีผู้ประกอบน้ำเข้าส่งออกสินค้า ทั้งชาวไทยและเมียนมาจะทยอยนำสินค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้นายเทอดศักดิ์ กิตติวรากรู เลขาชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-เมียนมา บ้านพุน้ำร้อน เปิดเผยว่า จากมาตรการณ์ผ่อนปรนของจังหวัดกาญจนบุรีในขั้นผู้ประกอบการรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการประสบความเดือดร้อนมานานนับเดือน เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคจากทั้งสองฝั่งจะต้องมีการค้าขายระหว่างกันตามที่ได้เซ็นต์สัญญาเอาไว้ โดยหลังจากที่ได้รับการผ่อนปรน จึงทำให้สามารถเดินหน้าไปได้
สำหรับฝั่งเมียนมาความต้องการสินค้าจากฝั่งไทยเป็นสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค รวมทั้งวัสดุก่อสร้าง เพราะฝั่งเมียนมากำลังมีการขยับขยายด้านการก่อสร้าง หากวัสดุการก่อสร้างไม่สารมารถส่งเข้าไปได้ช่างก่อสร้างก็ไม่มีงานทำ ส่วนของกินของใช้นั้นชาวเมียนมาจะใช้ของไทยเป็นส่วนมาก หากสินค้าเหล่านี้ส่งไม่ได้ก็จะทำให้เขาขาดแคลน ส่วนสินค้าที่ชาวไทยนำเข้าบริเวณด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หลักๆแล้วมีอยู่ 2 ชนิดคือหอมแดง กับอาหารทะเล
สำหรับการผ่อนปรนระหว่างวันที่ 3-4 ก.พ.นี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดในพื้นที่วันละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าส่งออก เนื่องจากประเทศเมียนมาไม่มีฐานการผิตสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค