“บิ๊กอู๊ด” ตรวจชายแดนตะวันตกอีกรอบ หวั่นรัฐประหารเมียนมา ทำชนกลุ่มน้อยทะลักเข้าไทย ย้ำจัดการเด็ดขาดขบวนการขนแรงงานเถื่อนเสี่ยงโควิด หลังพบข้อมูลค่าหัวพุ่งรายละหมื่นห้า
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.5 พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.คงฤทธิ์ สุกใส ผกก.ตม.จว.กระบี่ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ สมใจประสงค์ ผกก.บคด.บก.ตม.4 และคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี, จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี
เนื่องจากเป็นชายแดนภาคตะวันตก ซึ่งติดกับประเทศเมียนมา ซึ่งขณะนี้กำลังมีปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหลบหนีเข้าเมืองมาใช้แรงงานในประเทศไทยทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และขณะนี้ได้เกิดการปฏิวัติในประเทศพม่าจึงกังวลว่าคนเมียนมาบางส่วนและคนกลุ่มน้อยจะหลบหนีข้ามชายแดนเข้ามายังประเทศไทย หากมีปัญหาภายในประเทศที่รุนแรงขึ้น โดยคณะได้เข้าประชุมร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ณ จุดตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ จุดผ่านแดนด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า หลังจากไทยได้ประกาศปิดด่านชายแดนเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และผ่อนปรนให้แรงงานผิดกฎหมายในประเทศที่อยู่มาก่อนวันที่ 29 ธ.ค. 2563 สามารถลงทะเบียนแรงงานได้ ก็เกรงว่าจะมีแรงงานต่างด้าวทะลักลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอีก
ประกอบกับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศเมียนมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. จึงสั่งการให้มาตรวจสอบเพราะอาจจะทำให้ชาวเมียนมาและชนกลุ่มน้อยลักลอบเข้าไทยมากยิ่งขึ้นหากสถานการณ์ภายในเมียนมามีความวุ่นวาย
ตนพร้อมคณะจึงเดินทางมาตรวจชายแดนทั้งสามจังหวัด เบื้องต้นพบว่าที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี ยังคงมีช่องทางธรรมชาติที่คนต่างด้าวใช้หลบหนีเข้าไทยอย่างน้อย 7 จุดโดยรายงานทางลับทราบว่ายังมีแรงงานเมียนมาที่มีความต้องการเข้าไทยอีกมากถึง 3-4 แสนคน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเข้าไทยมาแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งตำรวจหลายหน่อยก็ช่วยกันจับกุมไว้ได้ เบื้องต้นพบว่าค่าหัวของขบวนการนำพาแรงงานเมียนมามีราคาเพิ่มสูงขึ้นถึงหัวละ 15,000 บาท แต่หากเป็นชาวจีนจะเพิ่มขึ้นถึงหัวละ 50,000 บาท ขณะนี้สั่งการให้ บก.ตม.3 และ บก.สส.สตม. เร่งดำเนินการจับกุมขบวนนี้นี้อย่างเร็วที่สุด
“ผบ.ตร. ได้ให้ผมมาดูสถานการณ์หลังการปฏิวัติ เพราะเกรงว่าชาวเมียนมาจะข้ามพรมแดนเข้ามามากขึ้น และนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาในไทยด้วย ได้ให้ตำรวจ ตม.ประสานตำรวจท้องที่ ตชด. ทหาร เราต้องมีแผนเผชิญเหตุ เพราะหากมีเหตุวุ่นวายในประเทศเพื่อนบ้าน ก็อาจจะทำให้ชาวพม่าหลบหนีเข้ามาในไทย ไม่ว่าจะเป็นแรงงานหนือพวกหลบหนีคดีต่างๆ เราต้องเตรียมแผนรองรับไว้ในกรณีฉุกเฉิน” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว
และว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาตรวจชายแดนตะวันตกไปแล้วและได้สั่งการให้เข้มงวด จนขณะนี้ปัจจุบันตำรวจ จ.กาญจนบุรี และ สตม. มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วตลอดมีแนวชายแดน พร้อมปฏิบัติการได้ทุกเมื่อ ขณะที่ตำรวจ ตชด. ก็ได้เพิ่มกำลังการตรวจตราแนวชายแดนเพิ่มขึ้นแล้ว