- Line
กาญจนบุรี – กฟผ. เปิดศูนย์ศึกษาและพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 แห่ง ในพื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนภูมิพล และ กฟผ.แม่เมาะ สืบสานศาสตร์พระราชา ‘โคก หนอง นา โมเดล’ เป็นแหล่งเรียนรู้ หวังฟื้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างความมั่นคงทางอาหาร น้ำ และพลังงาน เตรียมรับมือวิกฤตอนาคต
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และนายกสมาคมดินโลก เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ศึกษาและพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ในการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบ ‘โคก หนอง นา โมเดล’ โดยมี นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี, นายอาจณรงค์ สัตยพานิช หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน, ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), ดร.สุทธิชัย จูประเสริฐพร รองผู้ว่าการบริหาร และผู้บริหาร กฟผ. เข้าร่วมในพิธี ณ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564
ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. ระบุว่า กฟผ. ให้ความสำคัญการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมรอบพื้นที่เขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงตลอดแนวสายส่งผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ชุมชนอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (7 เขื่อนพระนาม 3 โรงไฟฟ้า) โดยพร้อมเปิดบริการให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่สู่การปฏิบัติจริงในรูปแบบ ‘โคก หนอง นา โมเดล’ ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เขื่อนภูมิพล จ.ตาก และ กฟผ. แม่เมาะ จ.ลำปาง เพื่อนำความรู้ไปขยายผล สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนสร้างความมั่นคงทางอาหาร น้ำ และพลังงาน เตรียมรับมือวิกฤตของโลกในอนาคต
ศูนย์ศึกษาและพัฒนา ฯ ของ กฟผ. จะเริ่มดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ประชาชนที่สนใจ เกษตรกร ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 64 เป็นต้นไป โดยวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้จากการปฏิบัติจริง หรือ “ครูพาทำ” ผ่านฐานการเรียนรู้ฐานหลักใน 7 ฐาน ประกอบด้วย
♦ ฐานคนรักษ์ป่า เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และการปลูกไม้ 5 ระดับ
♦ ฐานคนรักษ์แม่ธรณี เรียนรู้เกี่ยวกับการทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ จากแนวคิด “เลี้ยงดิน ให้ดินเลี้ยงพืช”
♦ ฐานคนรักษ์น้ำ เรียนรู้ศาสตร์การจัดการและอนุรักษ์น้ำโดยหลักธรรมชาติ อาทิ โครงการฝนหลวง การขุดคลองไส้ไก่ เครื่องดักหมอก และการบำบัดน้ำเสีย
♦ ฐานคนรักษ์แม่โพสพ เรียนรู้การทำนาข้าวอินทรีย์ ดังคำที่ว่า “เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง”
♦ ฐานคนรักษ์สุขภาพ เรียนรู้วิธีการมีสุขภาพที่ดีแบบวิถีพอเพียง
♦ ฐานคนมีน้ำยา เรียนรู้วิธีการทำน้ำยาเอนกประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
♦ ฐานคนเอาถ่าน เรียนรู้การทำถ่านธรรมชาติและประโยชน์ของน้ำส้มควันไม้
รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวด้วยว่า ศูนย์ศึกษาและพัฒนา ฯ ของ กฟผ. ยังมุ่งเน้นการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในพื้นที่ โดยเฉพาะพลังงานชีวมวล นำเอาเศษอาหารและมูลสัตว์มาหมักเป็นก๊าซชีวภาพเพื่อใช้แทนก๊าซหุงต้ม การติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากโซลาร์เซลล์ และการปลูกพืชพลังงาน รวมถึงการกิจกรรมให้เหมาะกับสภาพพื้นที่และภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์การเรียนรู้ราชานุรักษ์ เขื่อนศรีนครินทร์ โทร. 034 574 248 ศูนย์ศึกษาและพัฒนา ฯ กฟผ. แม่เมาะ โทร. 054 252 186 และประชาสัมพันธ์เขื่อนภูมิพล โทร. 055 881 238
ทั้งนี้ กฟผ. มีแผนจัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงภายในปี 2565 เพิ่มเติม รวม 10 แห่ง ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์, เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี, เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี, เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ, โรงไฟฟ้าวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา