ชาวบ้านทั่วสารทิศแห่ชิมน้ำพุโซดาที่ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เป็นวันแรกหลังกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิม โดยที่มีการแจกจ่ายให้นำกลับไปทดลองดื่มที่บ้านคนละ 1 ขวด 500 ซีซี
ความคืบหน้าการบริหารจัดการบาดาลน้ำพุโซดาห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่เช้าวันนี้ (24 ก.พ.64) บรรยากาศที่บ่อบาดาลน้ำแร่พุโซดา บ้านทุ่งคูณ หมู่ 12 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ค่อนข้างคึกคัก เพราะทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เปิดให้นักท่องเที่ยวกว่า 500 คน โดยมีทั้งชาวห้วยกระเจาชาวบ่อพลอยในพื้นที่ใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียงที่มารอต่อแถวชิมน้ำบาดาลโซดาจากพุน้ำโดยตรง โดยมีการเตรียมแก้วกรวยกระดาษใส่น้ำดื่มไว้ให้ ส่วนชาวบ้านที่จะเข้าดื่มน้ำมีการตั้งจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 จำนวน 2 จุด
ต่อมาใกล้เที่ยงเวลา 11.00 น. นายกุศล โชติรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เดินทางมาตรวจดูความพร้อม และความเรียบร้อยของเครื่องกรองน้ำที่จะใช้สำหรับกรองน้ำดื่มแจกจ่ายประชาชนที่เดินทางมาทดลองชิมน้ำแร่ธรรมชาติ หลังตรวจความเรียบร้อยเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้ประชาชนเจ้าชิมเป็นจุดที่สอง โดยยืนเข้าแถว ก่อนจะเดินเข้าไปกรอกน้ำจากเครื่องกรองทีละคน โดยกำหนดให้ทุกคนจะสามารถทดลองนำน้ำแร่กลับไปชิมได้คนละ 500 ซีซี เท่านั้น และขวดบรรจุภัณฑ์ก็ต้องเป็นขวดที่ทางเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจัดเตรียมเอาไว้ให้เท่านั้น
บรรยากาศทั่วไป หลังเปิดให้ชิมน้ำบาดาลพุโซดา จะมีการแบ่งออกเป็น 2 จุด คือ จุดที่ชาวบ้านเข้าแถวไปกรอกน้ำแร่ที่ผ่านการสกัดจากเครื่องกรองแล้ว กับอีกจุดนึง คือจุดที่ให้ชาวบ้าน เข้าไปทดลองชิมจากน้ำพุที่ผุดขึ้นมาจากบาดาล โดยยังไม่ผ่านการกรอง ที่มีการจัดระเบียบให้ชาวบ้านต่อแถวยาวกว่า 100 เมตร ต่อแถวแบบเว้นระยะแบบนิวนอร์มอล โดยมีการจัดเข้าดื่มชิมครั้งละ 5 คน โดยทั้งสองจุดเจ้าหน้าที่จะเตรียมขวด เตรียมแก้วกระดาษเอาไว้ให้ชิม เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำขวดมาตักกลับ ซึ่งก็มีชาวบ้านหลายคนต่างผิดหวัง เพราะส่วนใหญ่ล้วนตั้งใจนำขวดมาจากบ้านเพื่อตักกลับไป เพราะน้ำที่ผุดขึ้นมาจากบาดาลนั้น ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่าหากนำไปผสมน้ำที่บ้าน และเอาตัวลงไปแช่ ก็จะมีคุณภาพเทียบเท่าน้ำแร่บริสุทธิ์ ช่วยทำให้แก้อาการปวดเมื่อย ทำให้ร่างกายผ่อนคลายได้
นางสมบัติ คันชั่ง อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในอำเภอห้วยกระเจา ที่เดินทางมาชิมน้ำแร่ที่ผ่านเครื่องกรองน้ำของเจ้าหน้าที่แล้ว เปิดเผยว่า จากการที่ได้ทดลองกินน้ำจากบ่อน้ำพุโซดา และน้ำที่ผ่านเครื่องกรองแล้ว รสชาติแทบจะไม่แตกต่างกัน โดยในบ่อน้ำที่เคยชิมจะมีความซ่า และมีรสออกเปรี้ยวกว่า ส่วนน้ำแร่ที่ผ่านเครื่องกรอง ก็มีรสชาติเหมือนน้ำแร่ที่ขายในท้องตลาดทั่วไป
จากการสังเกตอาการ หรือสภาพทั่วไปของชาวบ้านที่ดื่มน้ำบาดาลพุโซดา ไม่พบว่ามีผลข้างเคียงหลังกินน้ำไปแล้ว ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ไม่รู้สึกปวดท้อง หรือมวลท้อง แต่ก็มีชาวบ้านบางคนที่มีความเชื่อว่าหากได้กินหรือได้นำไปลูบตามตัว หรือไปแช่ในน้ำแร่นี้นั้นจะทำให้หายปวดเมื่อย กล้ามเนื้อผ่อนคลายนั้น ส่วนตัวก็ไม่มั่นใจว่าน้ำแร่ชนิดนี้จะมีสรรพคุณจริงเหมือนที่เขาล่ำลือกันหรือไม่
ส่วน นายกุศล โชติรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะมอบหมายให้หน่วยงานท้องถิ่นเป็นผู้จัดสรรปันส่วนในพื้นที่ เกี่ยวกับการแจกจ่ายน้ำให้พี่นองประชาชน ใช้อุปโภคบริโภค อีกทั้งก็จะให้มีการจัดระเบียบในการเข้ามาเยี่ยมชมน้ำแร่โซดาของประชาชนต่างถิ่น ส่วนในอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอะไรยังไงนั้น ก็แล้วแต่ชาวบ้านที่จะช่วยกันพัฒนากันต่อไป.