เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กาญจนบุรี – โครงการพัฒนาโรงงานกระดาษ เมืองกาญจน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยว อาจจะต้องชะงัก หลัง บริษัทฯเอกชน เมินรื้อถอนบ้านพักผู้จัดการโรงงานกระดาษ เหตุสร้างทับกำแพงเมืองกาญจน์ ทำให้กระทบการบูรณะของกรมศิลปากร เหลืออีกแค่ 2 เดือนเศษจะหมดสัญญา
จากกรณีกรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่โรงงานกระดาษให้ อบจ.กาญจนบุรี เพื่อนำไปพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี โดยเมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 ที่ผ่านมานายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวกาญจนบุรีได้รับทราบความคืบหน้าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อที่ 1 ระบุว่า
เรื่องโรงงานกระดาษ ขณะนี้ อบจ.กาญจนบุรี ได้รับมอบพื้นที่จากกรมธนารักษ์เป็นที่เรียบร้อย โดยบริเวณโดยรอบ กรมศิลปากรกำลังบูรณะซ่อมแซมอาคารสโมสร รง.กระดาษ และบูรณะกำแพงเมืองอยู่ กำหนดเสร็จในปีงบประมาณนี้ หรืออาจขยายเวลาไปอีกเล็กน้อย สำหรับการปรับปรุงตัว รง.ใหญ่ต่อแต่นี้จะเป็นภารกิจของ อบจ.ที่จะต้องคุยกับคนกาญจนบุรีและภาคเอกชนที่จะมาช่วยกันปรึกษาและพูดคุยเพื่อพัฒนาสมบัติของคนเมืองกาญจน์ให้ตรงกับความต้องการ ณ ขณะนี้ภารกิจของ ผู้ว่าฯ เกี่ยวกับโรงงานกระดาษน่าจะไม่มีแล้ว เพราะเป็นเรื่องของเจ้าของคือ อบจ.และประชาชนในพื้นที่ ผู้ว่าฯ คงแต่เพียงประสานให้การช่วยเหลืออยู่ห่างๆครับ ซึ่งเชื่อว่า อบจ.คงมีแผนงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว
จากการโพสต์แจ้งข้างต้น ทำให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรี รู้สึกยินดีกับความคืบหน้าในการพัฒนาโรงงานกระดาษเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนายังคงมีปัญหาและอุปสรรคโดยเฉพาะอุปสรรคการบูรณะกำแพงเมืองเก่าที่กรมศิลปากรกำลังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญา
ล่าสุดวันนี้ ( 9 ก.ย.) นายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำภาพบ้านพักพร้อมภาพเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ที่กำลังบูรณะกำแพงเมืองมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้เขียนข้อความบรรยาย ระบุว่า “กรมศิลปากร กำลังบูรณะกำแพงเมืองเก่ากาญจนบุรี สัญญาจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2564 แต่ติดที่บ้านพักผู้จัดการโรงงานกระดาษ ปลูกสร้างทับกำแพงเมืองเก่า และไม่อยู่ในบัญชีที่กรมศิลปากรให้เก็บรักษาไว้ ซึ่งกรมศิลปากรและกรมธนารักษ์ ได้แจ้งให้รื้อออกไปหลายครั้งแล้ว ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากรูปภาพพร้อมคำบรรยายที่นำมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กแล้ว นายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี ยังได้นำสำเนา ของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่ส่งถึง กรรมการบริษัท อุตสาหกรรมกระดาษ ศิริศักดิ์ จำกัด เรื่องขอให้รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุ (แปลงโรงงานกระดาษ) มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กด้วย
โดยหนังสือสำเนาดังกล่าว อ้างถึง หนังสือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี ที่ กค.0311.02/878 ลงวันที่ 27 ก.พ.63 รายละเอียดดังนี้ ตามที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรีขอให้บริษัท อุตสาหกรรมกระดาษ ศิริศักดิ์ จำกัด ดำเนินการแจ้งผู้อยู่อาศัยที่เหลืออยู่ จำนวน 1 หลัง ออกจากบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กจ.194 (แปลงโรงงานกระดาษ)พร้อมกับเร่งดำเนินการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เป็นโบราณสถานทั้งหมดออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วนั้น
สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรีขอเรียนว่า บัดนี้ระยะเวลาได้ล่วงเลยมานานแล้ว บริษัท อุตสาหกรรมกระดาษ ศิริศักดิ์ จำกัด ยังมิได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้าง (อาคารไม้ 2 ชั้น และบ้านพักรับรอง)ออกจากบนที่ดินแปลงดังกล่าวแต่อย่างใด
ประกอบกับทางราชการมีความจำเป็นต้องนำที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าวไปพัฒนาพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการ ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามแผนการพัฒนาที่ราชพัสดุ (แปลงโรงงานกระดาษ) จึงขอให้บริษัทฯ เร่งดำเนินการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวออกจากพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่ดำเนินการตามภายในระยะเวลาที่กำหนด ทางราชการจะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป ซึ่งหนังสือดังกล่าวลงนามโดยนายสุรัตน์ นุ้ยป้อม ผู้อำนวยการสูง รักษาราชการแทน ธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี โพสต์เฟซบุ๊กได้ไม่นาน ปรากฏว่ามีสมาชิกและชาวกาญจนบุรี เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ขอให้ทางบริษัทฯเร่ง ดำเนินการรื้อถอน เพื่อกรมศิลปากรจะได้ดำเนินการบูรณะกำแพงเมืองให้แล้วเสร็จตามสัญญาที่จะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2564 นี้
ทั้งนี้นายสุรัตน์ นุ้ยป้อม ธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี ได้ส่งหนังสือไปถึงบริษัทเพื่อให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างมาแล้ว 3 ฉบับ ฉบับล่าสุดส่งไปเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา และทาง อบจ.กาญจนบุรี ผู้ดูแลพื้นที่ก็ได้มีการเรียกทางบริษัทเข้าไปประชุมมาแล้ว แต่ถ้าหากทางบริษัทฯยังไม่ดำเนินการตาม ก็จำเป็นจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป