กรมน้ำบาดาลชวน ปชช.ร่วมรับเสด็จ ‘ในหลวง-พระราชินี’ เปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรีวันที่ 3 เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับ โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรจากภาวะวิกฤตภัยแล้ง เนื่องจากที่ผ่านมาในพื้นที่ชนบทเกือบทุกจังหวัด ระบบประปาหมู่บ้านไม่สามารถเข้าถึงได้ เมื่อถึงหน้าแล้งปรากฎว่าน้ำแห้ง ไม่มีน้ำ หรือบางหมู่บ้านอาจมีน้ำ แต่น้ำไม่มีคุณภาพมากพอที่จะอุปโภคบริโภคได้ ซึ่งบางพื้นที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบรรทุกน้ำแจกจ่ายหลายล้านบาทต่อปี ซึ่งปัญหาเหล่านี้กรมน้ำบาดาลได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงปัญหาดังกล่าวด้วย
นายศักดิ์ดากล่าวอีกว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงได้สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรจากภาวะวิกฤตภัยแล้ง ซึ่งกรมทราบดีว่าน้ำใต้ดินมีจำนวนมหาศาล จึงได้ส่งนักธรณีสำรวจปริมาณน้ำใต้ดินในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งการออกแบบ วางแผนจัดทำโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง โดยการก่อสร้างระบบประปาบาดาลในบริเวณพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำบาดาลที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีน้ำอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี
สำหรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีทั้งหมด 15 โครงการ ครอบคลุม 11 จังหวัด ประกอบด้วย
1.พื้นที่ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ประชาชนได้รับประโยชน์ 5,786 คน พื้นที่เกษตร 3,000 ไร่ ปริมาณน้ำที่ได้ 1.7 ล้าน ลบ.ม./ปี
2.พื้นที่ ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ประชาชนได้รับประโยชน์ 11,000 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 438,000 ลบ.ม./ปี
3.พื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.กระเจา จ.กาญจนบุรี (จุดที่ 1) ประชาชนได้รับประโยชน์ 4,989 คน พื้นที่เกษตร 3,000 ไร่ ปริมาณน้ำที่ได้ 1.0 ล้าน ลบ.ม./ปี
4.พื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี (จุดที่ 2) ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,369 คน พื้นที่เกษตร 3,000 ไร่ ปริมาณน้ำที่ได้ 700,800 ล้าน ลบ.ม./ปี
5.พื้นที่ ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,400 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 700,800 ลบ.ม./ปี
6.พื้นที่ ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ประชาชนได้รับประโยชน์ 6,198 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 525,600 ลบ.ม./ปี
7.พื้นที่ ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,600 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 584,000 ลบ.ม./ปี
8.พื้นที่ ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ประชาชนได้รับประโยชน์ 5,000 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 292,000 ลบ.ม./ปี
9.เทศบาล ต.ศรีรัตนะ อ.ศรีรัตนะ และ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนได้รับประโยชน์ 7,830 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 507,350 ลบ.ม./ปี
10.พื้นที่ ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ประชาชนได้รับประโยชน์ 6,620 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 992,720 ลบ.ม./ปี
11.พื้นที่ ต.โพธิ์ตาก และต.นาทราย อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม ประชาชนได้รับประโยชน์ 12,224 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 776,720 ลบ.ม./ปี
12.พื้นที่ ต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ประชาชนได้รับประโยชน์ 7,200 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 420,480 ลบ.ม./ปี
13.พื้นที่ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,419 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 116,800 ลบ.ม./ปี
14.พื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 10,343 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 700,800 ลบ.ม./ปี
15.พื้นที่ ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ประชาชนได้รับประโยชน์ 4,125 คน ปริมาณน้ำที่ได้ 140,160 ลบ.ม./ปี
นายศักดิ์ดากล่าวว่า ทั้ง 15 โครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัดนั้น ล้วนเป็นพื้นที่ที่เคยขาดแคลนน้ำและไม่มีศักยภาพ จึงจำเป็นต้องเจาะบ่อบาดาลขนาดใหญ่ ซึ่งทุกพื้นที่ที่ดำเนินการโครงการได้มีการประชาคมร่วมกับท้องถิ่น ได้รับการยินยอมของราษฎรให้ใช้พื้นที่ และมีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลอย่าง มีประสิทธิภาพและยั่งยืน และมีความพร้อมในการรับมอบเป็นผู้ดูแลระบบ โดยจากนี้ชาวบ้านจะมีน้ำต้นทุนสำหรับทำระบบประปาหมู่บ้าน ได้อย่างเพียงพอและมั่นคง สามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำทั้งในด้านการอุปโภคบริโภคและเป็นแหล่งน้ำเสริมสำหรับเกษตรกรรมด้วย
นายศักดิ์ดาระบุอีกว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในวันที่ 3 เม.ย.65 เวลา 17.00 น. ณ โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ฯ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อมแล้ว
สำหรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ฯ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี นับเป็นหนึ่งใน 15 โครงการ ที่พร้อมส่งมอบโครงการน้ำบาดาลเพื่อแก้ปัญหาน้ำกินน้ำใช้และน้ำเพื่อการเกษตรแล้ว โดยได้ก่อสร้างระบบประปาขนาดใหญ่ โดยมีถังเก็บน้ำ ขนาด 2,000 ลบ.ม. จำนวน 2 ถัง และถังรักษาแรงดัน ขนาด 300 ลบ.ม. จำนวน 2 ถัง พร้อมท่อกระจายน้ำหรือท่อประธาน เพื่อส่งน้ำให้กับพี่น้องประชาชนชาว ต.หนองฝ้ายทั้งตำบลสามารถมีน้ำแร่ธรรมชาติไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ทั้งนี้ มีผู้ได้รับประโยชน์ทั้งสิ้นเกือบ 6,000 คน หรือ 1,900 ครัวเรือน และยังขยายผลส่งน้ำไปให้พื้นที่เกษตรกรรมได้รับประโยชน์อีกกว่า 3,000 ไร่ ขณะที่ผู้ว่าฯกาญจนบุรีได้สั่งการให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรีสำรวจ ออกแบบวางท่อกระจายน้ำจาก ต.หนองฝ้ายไปยังตำบลอื่นๆ อีก เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี แล้ว เพื่อให้ประชาชนมีน้ำบาดาลใช้ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างมั่นคงยั่งยืน
นายศักดิ์ดายังกล่าวถึงงโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ว่าภายใต้โครงการศึกษา สำรวจ และรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาล จากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึ พื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน ต.ห้วยกระเจา นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมฯ ร่วมกับทางท้องถิ่นในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล การใช้น้ำ การจัดเก็บค่าใช้น้ำ การดูแลรักษาและการใช้ประโยชน์ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ภายใต้หลักเกณฑ์ตามข้อบัญญัติของเทศบาลตำบลห้วยกระเจา ที่เน้นการกระจายน้ำอย่างทั่วถึงเป็นธรรม อีกทั้งยังมีบ้านน้ำดื่มขอให้บริการฟรีเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
อธิบดีกรมน้ำบาดาลย้ำว่า โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้คำนึงถึงการบริหารจัดการภายหลังการส่งมอบโครงการให้กับพื้นที่เป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการบำรุงรักษาระบบ การลดการสูญเสียน้ำจากระบบการดำเนินงาน การพิจารณานำพลังงานทางเลือกมาใช้ในการเดินระบบเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน การรักษาระดับน้ำใต้ดินและการเติมน้ำใต้ดิน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำบาดาลอย่างยั่งยืน รวมถึงการติดตามปริมาณน้ำใต้ดิน และการควบคุมคุณภาพของน้ำใต้ดินในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
อธิบดีกรมน้ำบาดาลกล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ขอเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในวันที่ 3 เม.ย.65 เวลา 17.00 น. ณ โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ฯ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี