…ชวนเที่ยว อช.พุเตย นอนเต็นท์สุดฟินกลางผืนป่า ชุ่มฉ่ำสายน้ำตกตะเพินคีน้อย ก่อนลุยขึ้นเขาชันไปพิชิต “ยอดเขาเทวดา” หลังคาเมืองสุพรรณ ที่สามารถมองเห็นวิวได้ถึง 3 จังหวัด ในวันที่ฟ้าเป็นใจจะเห็นทะเลหมอกขาวโพลน ปานประหนึ่งเรากำลังยืนอยู่เหนือเมฆใกล้สวรรค์ชั้นฟ้า และองค์เทวดา คนสมัยก่อนจึงเรียกเขาลูกนี้ว่า “เขาเทวดา”…
“นี่คือจุดที่สูงที่สุดในจังหวัดสุพรรณ คนสมัยก่อนเลยเปรียบว่า อยู่ใกล้เทวดาที่สุด จึงเรียกเขาลูกนี้ว่าเขาเทวดา”
เจ้าหน้าที่อุทยานฯ พุเตย เผยถึงหนึ่งในข้อสันนิษฐานในที่มาของชื่อ “เขาเทวดา” กับผมหลังจากพวกเราเดินดุ่ย ๆ ขึ้นมาเป็น “ผู้พิชิตยอดเขาเทวดา” ได้ชนิดที่เหงื่อยังไม่ทันแห้ง
บนยอดเขาเทวดาแม้ไม่พบเทวดา ไม่เจออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของท่าน แต่บนนี้มีความงามของธรรมชาติอันชวนทึ่ง จนหลายคนยกให้เป็น “แดนสวรรค์ใกล้กรุง” ที่ทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี” ยกให้เป็นหนึ่งในไฮไลท์แหล่งท่องเที่ยวหน้าฝนของจังหวัดสุพรรณบุรี
อช.พุเตย-ตะเพินคี่
เขาเทวดา ตั้งอยู่ในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติพุเตย” อ.ด่านช้าง อุทยานแห่งชาติหนึ่งเดียวในจังหวัดสุพรรณบุรี ผืนป่าใหญ่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำและมากไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ได้รับรางวัล “อุทยานแห่งชาติสีเขียว” ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม (Green National Park) ระดับทอง จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การันตีในคุณภาพ
สำหรับการเดินทางสู่ยอดเขาเทวดาในทริปนี้ (2 วัน 1 คืน) จากกทม.เรามาตั้งต้นกันที่ “ที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย” (อ.ด่านช้าง) เพื่อต่อรถกระบะโฟร์วีลของทางอุทยานฯที่จองไว้เดินทางขึ้นสู่ “ลานกางเต็นท์ตะเพินคี่” ที่อยู่ห่างจากที่ทำการฯไปประมาณ 13 กม.
จากที่ทำการ อช.พุเตยสู่ลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ ช่วงแรกจะเป็นถนนลาดยาง-ถนนคอนกรีตจากนั้นส่วนใหญ่จะเป็นถนนลูกรังขึ้นเขาคดเคี้ยว คนขับต้องมีความชำนาญเป็นอย่างสูง ขณะที่ช่วงท้าย ๆ ก่อนถึงลานกางเต็นท์จะมีจุดชมวิวผืนป่าใหญ่ใน อช.พุเตยให้ได้ถ่ายรูปและลงมาเดินยืดแข้งยืดขากัน
หลังใช้เวลานั่งรถขึ้นเขาขโยกไป-มา ประมาณ 45 นาที คณะเราก็มาถึงยังลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ (หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 3 ตะเพินคี่) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ “หมู่บ้านตะเพินคี่” ชุมชนชาวกะเหรี่ยงโปว์หรือกะเหรี่ยงโผล่ว ที่มีประวัติการอยู่อาศัยในบริเวณนี้มากว่า 200 ปี
ลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ถือเป็นฮับในการออกเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ของ อช.พุเตย ไม่ว่าจะเป็นถ้ำตะเพินเงิน-ถ้ำตะเพินทอง น้ำตกตะเพินคี่น้อย-น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ (ที่วันนี้ทาง อช.พุเตย เปิดเส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่เชื่อมระหว่างน้ำตกทั้งสองแล้ว) และไฮไลท์คือยอดเขาเทวดาที่อยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์ไปประมาณ 1.5 กม.
ลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ตั้งอยู่บนความสูง 802 เมตรจากระดับน้ำทะเล การจัดภูมิทัศน์ที่เป็นระเบียบสะอาดร่มรื่น ห้องน้ำก็สะอาดสะอ้าน (ดั้งนั้นนักท่องเที่ยวต้องช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าทำสกปรก) และมีวิวทิวทัศน์รอบข้างที่สวยงาม นอกจากลานกางเต็นท์ตะเพินคี่แล้วในละแวกนี้ยังมีลานมีลานกางเต็นท์ของชาวบ้านให้เลือกพักค้างอีกจำนวนหนึ่งตามใจชอบ
วันที่คณะเราไปนอนที่นี่เป็น “วันธรรมดา” ในช่วงต้นฤดูฝน นักท่องเที่ยวจึงมีไม่มาก บรรยากาศต่าง ๆ จึงค่อนข้างเป็นใจ คือทั้งสงบเป็นส่วนตัว เหมือนแยกมาอยู่อีกโลกหนึ่งที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย และได้รับพลังจากธรรมชาติไปเต็ม ๆ
เรียกว่าต่างกันลิบลับกับบรรยากาศการท่องเที่ยวในวันหยุดยาว ที่มีคนมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เมื่อมากคน มากความ ดราม่าก็มากตามมา
น้ำตกตะเพินคี่น้อย
หลังกางเต็นท์ เก็บข้าวของ และพักผ่อนกันสักเล็กน้อย พอให้แข้งขาได้หายจากเหน็บชาที่นั่งขดอยู่บนกระบะมานาน ช่วงเย็นของวันแรกเรามีโปรแกรมไปเที่ยว “น้ำตกตะเพินคี่น้อย” ที่อยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ไปประมาณ 7 กม.
น้ำตกตะเพินคี่น้อยตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกับทางไปขึ้นเขาเทวดา โดยมีทางเดินป่าแยกจากถนนลงไปชมน้ำตกในระยะไม่ไกล แต่ว่าพี่จนท.อุทยานฯ ไม่แนะนำให้เที่ยวน้ำตกตะเพินคี่น้อยต่อหลังลงจากยอดเขาเทวดา ด้วยเหตุผลว่า แม้ใจจะสู้แต่แข้ง เข่า น่อง มันอาจไม่สู้ ประท้วงด้วยอาการ “ขาจะปวด” เดินขาสั่นพับ ๆ แบบแทบหมดเรี่ยวหมดแรงสู่น้ำตกตะเพินคี่น้อย ซึ่งมันจะกลายเป็นการทรมานสังขารตัวเองไปอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะคนที่เกิดมาในยุคแฟนฉัน ชาตรี แกรนด์เอ็กซ์ คีรีบูน คาราบาว อัสนี-วสันต์ แบบผม เรื่องแบบนี้ถ้าเลี่ยงได้ ควรเลี่ยงหลีกลี้หนีให้ไกล
ดังนั้นจุดหมายหลักในเย็นวันแรกพวกเราจึงมุ่งหน้าไปยังน้ำตก “ตะเพินคี่น้อย” ที่จากจุดจอดรถ เดินลงไปประมาณ 100 เมตร จะพบตัวน้ำตกไหลชุมฉ่ำอยู่ในผืนป่าใหญ่อันร่มรื่น
น้ำตกตะเพินคี่น้อยมีความสูงราว 10 เมตร ไหลผ่านผาหินปูนเป็นแนวดิ่งลงมาสู่แอ่งลำธารเบื้องล่าง ข้างน้ำตกด้านขวามีต้นไทรใหญ่ทอดรากเกาะโขดหินใหญ่เลื้อยระโยงยาวลงมาสู่พื้นดินด้านล่างดูสวยงามแปลกตา
หลังเพลิดเพลินกับความสวยงามชุ่มฉ่ำของน้ำตกตะเพินคี่ จุดต่อไปในช่วงเย็นของวัน ผมไปชมวิว “เขาเทวดา” ที่ตั้งโดดเด่นตระหง่านอุ่นเครื่องก่อนที่เราจะขึ้นไปพิชิตยอดเขาลูกนี้กันตั้งแต่เช้ามืดของวันถัดไป
พิชิตยอดเขาเทวดา
เช้ามืดของวันใหม่ ก่อนออกไปพิชิตยอดเขาเทวดา ผมตื่นขึ้นมาชมทางช้างเผือก ที่เช้ามืดนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งเป็นใจมองเห็นทะเลดาวดารดาษเต็มฟากฟ้า แถมมาพร้อม ๆ กับ “ทางช้างเผือก” อันสวยงามทอดผ่านกันแบบจะจะ ชนิดที่
สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน
หลังจากนั้นราวตี 5 คณะเรามุ่งหน้าสู่ “เขาเทวดา” ที่ตั้งอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ 1.5 กม. โดยมีเสน่ห์ความเร้าใจคือการเดินขึ้นเขาจากจุดจอดรถ ผ่าน ”เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาเทวดา” สู่จุดชมวิวยอดเขาเทวดา ในระยะทางรวม 900 เมตร
ทางเดินขึ้นเขาเทวดาช่วง 800 เมตรแรก เป็นทางบันไดคอนกรีตผสมดินที่ปรับระดับให้เดินง่ายขึ้น (กว่าทางบันไดดินแบบเดิม) แต่ว่าการเดินขึ้นก็เหนื่อยเอาเรื่อง เพราะเป็นทางเดินขึ้นเขาสูงชัน (ราว 45 องศา) ยาวไปตลอด 800 เมตร
นอกจากนี้บางช่วงยังเป็นทางพิเศษ คือชันเป็นพิเศษ จึงต้องมีเชือกให้ไต่เกาะยึดกันลื่นไถล และเพื่อใช้พยุงส่งตัวเดินต่อไป แต่เมื่อค่อย ๆ เดินขึ้นไปตามแรงกำลังของแต่ละคน ถ้าเหนื่อยนักก็หาจุดพักแถวข้างทางไว้ก่อน ราว ๆ 45 นาที- 1 ชั่วโมง (สำหรับคนปกติ) เราก็จะผ่านช่วงความชัน 800 เมตรนั้นมาได้ ขณะที่ช่วง 100 เมตรสุดท้าย เป็นทางเดินบนยอดเขารับลมเย็น ๆ สบาย ๆ ช่วยให้หายเหนื่อยได้มากโข นับได้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าสำหรับมือใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย
บนยอดเขาก่อนถึงจุดชมวิว มี “เจดีย์เสถียรโพธิ” และ “พระพุทธรัตนมุนีศรีเทวา” ที่ชาวกะเหรี่ยงบ้านตะเพินคี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ตั้งโดดเด่นบนยอดเขาให้สักกาบูชา นอกจากนี้ก็ยังมี “ท้าวเวสสุวรรณ” 2 องค์ ยืนเป็นผู้พิทักษ์เจดีย์และองค์พระอยู่ซ้าย-ขวา หน้าองค์เจดีย์ ให้บรรดานักเที่ยวสายมูได้อธิษฐานขอพร ขอเลขกัน
เมื่อเดินถัดจากเจดีย์ต่อไปก็จะเป็น “จุดชมวิวยอดเขาเทวดา” ที่มีป้าย “ผู้พิชิตยอดเขาเทวดา” ให้ถ่ายรูปการันตีว่าเราขึ้นมาถึงบนยอดเขาแห่งนี้แล้ว
เขาเทวดา หรือที่ชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่เรียกว่า “ปิละด่อง” (แปลว่าเขาเทวดา) มี “ยอดเขาเทวดา” เป็นยอดสูงสุด ตั้งอยู่บนความสูง 1,123 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือเป็นจุดที่สูงที่สุดของแผ่นดินจังหวัดสุพรรณบุรี จนถูกเรียกขานเป็น “ยอดเขาเทวดา หลังคาเมืองสุพรรณ”
บนนี้เป็นจุดชมวิวใกล้กรุงฯชั้นดี ที่เมื่อมองลงไป จะเห็นวิวทิวทัศน์ของ “หมู่บ้านตะเพินคี่” ที่พวกเราเดินทางผ่านขึ้นมาตั้งอยู่เบื้องล่าง และเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าตะวันตกใน 3 จังหวัดคือ ผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ผืนป่ามรดกโลกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี และผืนป่าอุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี
ส่วนในวันที่ท้องฟ้าอากาศเป็นใจบนนี้จะเห็นทะเลหมอกขาวโพลนลอยอ้อยอิ่งอยู่เบื้องล่างปกคลุมไปทั่วบริเวณ ปานประหนึ่งเรากำลังยืนอยู่เหนือเมฆใกล้สวรรค์ชั้นฟ้า และ “องค์เทวดา” คนสมัยก่อนจึงเปรียบว่า ยอดเขาลูกนี้อยู่ใกล้เทวดา จึงเรียกว่า “เขาเทวดา” (ตามที่กล่าวมาข้างต้น) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในข้อสันนิษฐานในที่มาของชื่อเขาเทวดาแห่งนี้
สำหรับผมบนยอดเขาเทวดาแม้ไม่พบเทวดา ไม่เจออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของท่าน แต่บนนี้มีความงามของธรรมชาติอันชวนทึ่ง จนหลายคนยกให้เป็น “แดนสวรรค์ใกล้กรุง” ที่คนธรรมดาอย่างเราก็สามารถเดินขึ้นเขาไปเป็นผู้พิชิตยอดเขาเทวดาได้อย่างไม่ยากเย็น
ขอเพียงใจสู้ไม่ย่นย่อท้อ แม้อุปสรรคขวากหนามจะยากลำบากแค่ไหน เราย่อมสามารถฟันฝ่าไปสู่จุดหมายได้สมดังใจหวัง
#####################################
เขาเทวดา ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มีลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ของอุทยานฯ และลานกางเต็นท์ของชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการพักค้าง สำหรับผู้ที่จะขึ้นไปพิชิตยอดเขาเทวดา
ลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการ อช.พุเตย ประมาณ 13 กม. การเดินทางยังลานกางเต็นต์ตะเพินคี่ควรใช้บริการรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ของอุทยานฯหรือของชาวบ้านในพื้นที่ (ควรติดต่อล่วงหน้าก่อน 2-3 วัน) อัตราค่าบริการรับ-ส่ง พาเที่ยวตามจุดสำคัญ ทริปละ 2,000 บาท นั่งได้ไม่เกิน 10 คน
ผู้สนใจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 035 960 240 หรือดูที่เพจ อุทยานแห่งชาติพุเตย นอกจากนี้ยังสามารถสอบถามข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ในจังหวัดสุพรรณบุรีได้ที่ ททท.สุพรรณบุรี โทร. 035 525 880 หรือดูที่เพจ TAT_suphanburi