จนท.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซุ่มจับทหารยศ “พ.จ.อ.” สังกัดหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 ขณะใช้อาวุธปืนซุ่มยิงสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ ค้นรถพบเจอซากนกเงือก 7 ตัวอุปกรณ์ล่าสัตว์ป่า อาวุธปืนและยาเสพติด ส่งตัวดำเนินคดีแจ้งข้อหาหนักในหลายกฎหมาย
วันนี้ (5 ก.พ.2564) นายนิพนธ์ จำนงค์ศิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารอนุรักษ์ที่3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า ได้รับ รายงานว่านายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ซึ่งได้รับแจ้งจากผู้หวังดีว่าจะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคท้องที่บ้านไทรโยคใหญ่ หมู่ที่ 7 ต.ไทรโยค ซึ่งหลังจากชุดลาดตระเวนนำกำลังเข้าพื้นที่ พบเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่บริเวณไร่ จึงนำกำลังดักซุ่ม กระทั่งพบชายคนหนึ่งกำลังใช้อาวุธปืนยาว ไม่ทราบชนิดซุ่มยิงสัตว์ป่าอยู่บริเวณโคนต้นไทร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อม พร้อมทั้งได้แสดงตนเป็นพนักงานเข้าจับกุม
ต่อมาสอบสวนและตรวจสอบเอกสาร พบว่าพ.จ.อ.พิสนุ เชยคิม อายุ 41 ปีสังกัดหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ซึ่งในมือด้านขวาถืออาวุธปืนเดี่ยวยาวลูกกรด ขนาด .22 LR พร้อมแม็กกาซีน ภายในรังเพลิงมีลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 นัด ลักษณะพร้อมใช้งาน ตรวจสอบภายในแม็กกาซีน พบลูกกระสุนปืนขนาด .22 บรรจุอยู่ภายในแม็กกาซีน จำนวน 7 นัด ตรวจค้นที่ตัวพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พกอยู่เอวด้านหลัง ตรวจสอบภายในอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ไม่พบลูกกระสุนปืนภายในรังเพลิง
พบซากนกเงือก 7 ซาก ซากนกกาเหว่า 2 ซาก ซากนกเขียวคราม 1 ซาก มีดพกสั้นจำนวน 1 เล่ม ไฟฉายคาดหัว จำนวน 2 อัน นอกจากนี้ตรวจค้นภายในกระเป๋า พบยาบ้า 4 เม็ดครึ่ง พร้อมอุปกรณ์เสพยา และกัญชาอัดแท่ง
ของกลางเพียบ-เจอในรถยนต์ที่นำมาก่อเหตุ
เบื้องต้น พ.จ.อ.พิสนุ ยอมรับว่ารถยนต์เป็นของตัวเอง ตรวจพบอาวุธปืนเดี่ยวลูกซองยาว ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 14 นัด มีดพกสั้นจำนวน 3 เล่ม มีดพล้าโต้ยาว จำนวน 1 เล่ม หม้อแปลงสำหรับช๊อตปลา จำนวน 1 ตัว แร้วดักสัตว์ป่า (แร้วคอม้า) จำนวน 23 อัน แร้วดักสัตว์ป่า(จิก) จำนวน 31 อัน ไฟฉายคาดหัว 1 อัน ของกลางทั้งหมดอยู่ภายในรถยนต์
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับรับทราบว่าผู้ถูกจับได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (3) ฐาน ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ประกอบมาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 (3) หรือ (4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 19 (7) ฐาน นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป ประกอบมาตรา 45 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 (7) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท มาตรา 56 บรรดาไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรธรรมชาติอื่นใดที่มีอยู่ในอุทยานแห่งชาติฯ ที่บุคคลได้มาจากการกระทำความผิด หรืออาวุธ เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใดๆ ที่บุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด ตามมาตรา 19 (1) (2) (4) (5) (7) หรือ (10)
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
แจ้งข้อหาความผิด 3 พ.ร.บ.โทษหนัก
นอกจากนี้ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 ฐาน ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ประกอบมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 12 หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 17 ฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว ประกอบมาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 55 (3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 55 (3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ส่วน พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ข้อหา มียาเสพติด(กัญชา) ยาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหา เสพยาติด (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้ดำเนินคดี และนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป