จับทุกวัน! จนท.จับลุงวัย 68 ปี ลักลอบขนต่างด้าว สารภาพได้ค่าจ้าง1หมื่นบาท
ตามที่ พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ และ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง คอยเฝ้าระวังตามแนวชายแดนไทย – เมียนมา ในจังหวัดกาญจนบุรี มิให้แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอานาจักรไทย รวมทั้งสิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิดนั้น
เมื่อวันนี้ 16 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยเอกรัตนชัย ขอสืบ รองผู้บังคับหน่วยควบคุมส่วนลาดตระเวน หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ และร้อยโทฉัตรฑริก ตันเจริญ ผู้บังคับหมวดลาดตระเวนที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวกองกำลังสุรสีห์ ว่า พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้อนิสสัน นาวารา ตอนเดียว สีเทา หมายเลขทะเบียน ถส 1761 กรุงเทพฯ บรรทุกแรงงานต่างด้าวมาเต็มคัน วิ่งอยู่บริเวณเขาหลังถนน หมู่ที่ 8 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
จากนั้นจึงได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปลัดอำเภอไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน ( อส.) อำเภอไทรโยค ร่วมสนธิกำลังรวม 15 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ กระทั่งพบรถคันดังกล่าว จึงได้ทำการสกัดและตรวจสอบ พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ขับขี่ ทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญช่วย พาสุขสวัสดิ์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 บ้านศรีมงคล หมู่ที่ 4 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
จากการสอบถาม บุญช่วย พาสุขสวัสดิ์ คนขับรถ ให้การว่า ตนได้ขับรถออกจากบ้านเพื่อไปหาเห็ดระโงก ที่บริเวณป่าพุอีกัง หมู่ที่ 8 ตำบลศรีมงคล ระหว่างขับรถไปนั้นได้พบกับบุคคลเดินเท้ามาจำนวน 10 คน และมีชายคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ตามมา และว่าจ้างให้ตนรับบุคคลทั้งหมดไปส่งที่บริเวณวัดหนองปลาซิว ตำบลศรีมงคล โดยให้ค่าจ้างหัวละ 1,000 บาท รวม 10,000 บาท โดยให้เงินมัดจำ จำนวน 3,000 บาท และเมื่อไปถึงที่หมายแล้วจะให้ส่วนที่เหลืออีก 7,000 บาท แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
จากการสอบถาม นายไร ซึ่งเป็นล่าม สามารถพูดภาษาไทย – พม่าได้ ทราบว่าบุคคลต่างด้าวทั้งหมดเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยเสียค่านายหน้าคนละ 18,000 บาท จากนั้นจึงได้นำตัวบุคคลต่างด้าวทั้ง 10 คน ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน นายบุญช่วย พาสุขสวัสดิ์ ดำเนินคดีในข้อหา ช่วยเหลือ หรือให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่บุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงนี้มีบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการกวดขันจับกุมได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน ทำให้ขณะนี้สถานีตำรวจภูธรในเขตอำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี ไม่มีที่คุมขังบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจนต้องนำไปฝากขังยังสถานีตำรวจภูธรใกล้เคียงแทน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
