ชาวเมียนมาในเมืองพญาตองซูยังคงออกมาจัดกิจกรรมประท้วงการยึดอำนาจของทหารเมียนมา ส่วนสถานการณ์ชายแดน อ.สังขละบุรี ยังปกติ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงติดตามใกล้ชิด หวั่นเกิดเหตุปะทะ ด้าน นอภ.พร้อมรับมือเหตุการณ์ผู้อพยพ
วันนี้ 29 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเมียนมาในเมืองพญาตองซู ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในพื้นที่ อ.พญาตองซู จ.กอกาเร็ก ซึ่งอยู่ติดชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ ยังคงออกมาจัดกิจกรรมอารยะขัดขืน ด้วยการเดินชูป้ายและปราศรัยการยึดอำนาจ รวมทั้งการใช้กำลังทหารและอาวุธในการปราบปรามผู้ชุมนุมในเมืองสำคัญๆ เช่น ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ ทวาย จนมีประชาชนเสียชีวิตทุกวัน
ซึ่งการออกมาชุมนุมของประชาชนใน อ.พญาตองซู ซึ่งเป็นพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง เป็นที่รับรู้กันดีว่า ได้รับการดูแลจากกองกำลัง KNU และ DKBA ทั้งนี้ตั้งแต่การสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา จนทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุม จนถึงวันนี้ทหาร ตำรวจ เมียนมา ในเมืองพญาตองซู ยังไม่ได้ใช้กำลังกับผู้ชุมนุมอีกจนถึงวันนี้
เนื่องจากที่ผ่านมา พ.อ.เพียวลิน หรือ ผู้พันเอวัน ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ DKBA ได้ออกมารับปากกับผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคนกะเหรี่ยง ว่าจะดูแลและปกป้องผู้ชุมนุม หากถูกทางการเมียนมาใช้กำลังและอาวุธในการปราบปราม
ทั้งนี้เป็นที่รู้กันดีว่าหากประเมินกำลังทหารเมียนมา (พัน.ร.31) ในพื้นที่ มีน้อยกว่ากองกำลัง KNU และ DKBA หลายเท่าตัว นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทางการเมียนมา ยังไม่กล้าตัดสินใจใช้ความรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม ที่จัดกิจกรรมต่อเนื่องทุกวัน ทั้งกลางวันและกลางคืน
ขณะที่สถานการณ์ในเมืองพญาตองซู ซึ่งอยู่ติดพื้นที่ชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยชาวบ้านยังคงดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพตามปกติ
ด้าน นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก 1-2 วันที่ผ่านมา ทางการเมียนมาได้ส่งกำลังเข้าไปปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงบริเวณชายแดน จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ตาก จนมีผู้อพยพข้ามเข้ามาพักพิงในประเทศไทย
ที่ผ่านมาได้สั่งการให้ผู้นำชุมชนที่มีพื้นที่ติดชายแดนเมียนมา ติดตามสถานการณ์และดูแลการลักลอบข้ามแดนเข้ามาของแรงงานเมียนมาและผู้หนีภัยความรุนแรงจากเมียนมา พร้อมกำชับให้ดูแล ความสงบและปลอดภัยในหมู่บ้าน ซึ่งหากเกิดสถานการณ์จริง มั่นใจในความพร้อม เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการซักซ้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีแผนรองรับไว้แล้ว