“น้ำแร่” ยิ่ง “แรร์” ยิ่ง “ปัง” ฮือฮา! “น้ำแร่โซดา” หวาน ซ่า

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ – สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วคุ้งทั่วแควสำหรับการค้นพบแหล่ง “น้ำแร่โซดา” รสชาติหวานซ่าครั้งแรกในเมืองไทย คุณภาพดีเทียบเท่าน้ำแร่ยี่ห้อดังในต่างประเทศ จากการสำรวจพื้นเจาะบ่อน้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พื้นที่ที่ประสบปัญหาแห้งแล้งทุรกันดารมากที่สุดในไทย จนได้รับการขนานนามว่า “ดินแดนอีสานของภาคตะวันตก” 

กล่าวสำหรับ “น้ำแร่” คือ น้ำบาดาลมีแหล่งที่มาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น แหล่งน้ำพุธรรมชาติ น้ำพุร้อน ประกอบด้วยแร่ธาตุละลายอยู่ในน้ำ หลักๆ แล้วมีแร่ธาตุอยู่ 5 ชนิด คือ แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และกำมะถัน โดยสัดส่วนแร่ธาตุมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละแหล่งที่มาของน้ำ ประการสำคัญแร่ธาตุเหล่านี้เป็นตัวกำหนดรสชาติที่แตกต่างกันไป

การค้นพบบ่อบาดาลน้ำแร่โซดาในครั้งนี้เป็นผลพวงมาจากนโยบายเร่งรัดแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ที่มีความแห้งแล้งซ้ำซาก ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งแท่นเป็นประธานคณะกรรมการน้ำแห่งชาติ โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน และภาคกลางบางจังหวัด เช่น จังหวัดกาญจนบุรี อ.ห้วยกระเจา, อ.พนมทวน, อ.บ่อพลอย ฯลฯ เป็นประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้งทุกปีเป็นเวลาช้านาน

โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งมีหน้าที่สำรวจ อนุรักษ์ จัดหาและพัฒนาน้ำบาดาลให้แก่ประชาชนตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ.2520 ส่งทีมสำรวจเข้าสำรวจหาแหล่งน้ำบาดาล โดยวิธีการสำรวจธรณีฟิสิกส์ด้วยวิธีวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าของชั้นดินชั้นหิน เมื่อพบพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่จะจัดส่งหน่วยเจาะสำรวจเจาะน้ำบาดาล เพื่อดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำระยะไกล เพื่อจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร

 สำหรับแหล่งน้ำแร่โซดาในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พบอยู่ลึกลงไปจากพื้นดินประมาณ 303 เมตร ในรอยแตกของชั้นหินแปร เมื่อเจาะลงไปถึงพบน้ำดังกล่าว ก็จะพุขึ้นมาในปริมาณมากกว่า 50 ลบ.ม. ต่อ ชม. ซึ่งคาดว่ามีปริมาณน้ำใต้ดิน 500 ล้านลบ.ม. โดยจะมีการพัฒนาให้เป็นระบบบาดาลระยะไกล และประกาศให้เป็นเขตควบคุมน้ำบาดาล ทำระบบการกระจายน้ำให้ชาวบ้าน นอกจากนี้ แว่วว่าส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วย 

ในส่วนของคุณภาพน้ำแร่โซดาผลตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นพบมีค่า PH หรือค่าความเป็นกรดด่างอยู่ที่ 6.75 มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำธรรมดามาก ไม่เจอสารพิษใดๆ ปนเปื้อน แต่พบปริมาณไบคาร์บอเนตสูง ซึ่งเป็นน้ำแร่ชนิดหนึ่งในจำนวนหลาย ๆ ชนิด เช่น น้ำแร่ซัลเฟต (Sulfate water) น้ำแร่ซัลเฟต-ไบคาร์บอเนต (Sulfate-bicarbonate waters) น้ำแร่แคลเซียม (calcium water) ทั้งนี้ แต่ละชนิดก็จะมีคุณประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภคแตกต่างกันไป

 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยถึงคุณภาพน้ำแร่โซดาในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พบว่ามีแร่ธาตุสูง มีไบคาร์บอเนตทำให้มีรสซ่าเหมือนโซดา ปริมาณน้ำใต้ดินมีมากกว่า 500 ล้าน/ลบ.ม. จากการนำคุณภาพน้ำแร่ในประเทศไทยมาเปรียบเทียบ นับว่าเป็นน้ำที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทยเท่าที่เคยค้นพบมา นอกจากนี้ ยังนำน้ำแร่จากต่างประเทศมาตรวจเปรียบเทียบพบว่าคุณภาพเทียบเท่ากับน้ำแร่ยี่ห้อดัง ที่มาจากประเทศเยอรมันราคาสูงกว่า 3,000 บาท  

แต่การบริโภคไม่แนะนำให้ดื่มแร่จากแหล่งธรรมชาติที่มีการค้นพบเพียวๆ เนื่องจากน้ำมีแร่เหล็กปนเปื้อน และการกินมากๆ จะสะสม อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ทางที่ดีต้องผ่านการกรองกำจัดแร่เหล็กออกไปก่อน ทั้งนี้ กรมอนามัยย้ำเตือนว่าน้ำแร่มีผลกระทบต่อสุภาพต่อผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยหัวใจ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารปริมาณมาก และผู้ป่วยที่มีโรคระบบทางเดินหายใจที่มีภาวะหลอดลมหดเกร็ง

 ตัดภาพมาที่ตลาดน้ำแร่ในประเทศไทย ข้อมูลปี 2562 ส่วนแบ่งตลาดน้ำแร่ในเมืองไทยมูลค่ากว่า 4,765 ล้านบาท สำหรับผู้นำตลาดอันดับ 1 ได้แก่ มิเนเร่ ของ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ส่วนแบ่ง 26 %, อันดับ 2 เพอร์ร่า ของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ส่วนแบ่ง 23%, อันดับ 3 ออร่า ของ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ส่วนแบ่ง 17%, และอันดับ 4 มองเฟลอร์ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ส่วนแบ่ง 16% 



นอกจากน้ำแร่บรรจุขวดมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายตอบโจทย์กลุ่มคนรัก ชูจุดขายน้ำแร่ธรรมชาติ 100% มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติชนิดที่ว่ายิ่งแรร์ยิ่งเพิ่มแวลู เช่น  มองต์เฟลอ  น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งน้ำพุใต้ผิวโลกที่ลึกกว่า 10,000 ฟุต จากแหล่งน้ำพุบนยอดเขาสูง อำเภอพบพระ จ.ตาก,  ออร่า น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งน้ำพุเย็นตามธรรมชาติ อุณหภูมิน้ำไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเกิดจากน้ำฝนตามธรรมชาติ ที่ไหลผ่านการกรองของชั้นหินลึกจำนวนหลายชั้น ใต้เทือกเขาสูงกว่า 2,700 ที่อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่  เพอร์ร่า น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งกำเนิดจากน้ำใต้ดินตามธรรมชาติ ลึกเกือบ 1,000 ฟุต และมีอายุยาวนานกว่า 30,000 ปี ที่แหล่งพระงาม จ.สิงห์บุรี สะสมแร่ธาติสำคัญตามธรรมชาติ,  มิเนเร่  น้ำแร่ธรรมชาติจากโพธิ์สามต้นแหล่งน้ำใต้ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ของอยุธยา อุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติที่มีประโยชน์หลายชนิด,ฯลฯ

หรืออย่างแบรนด์น้ำแร่ต่างประเทศ เช่น เอเวียง (Evian)  น้ำแร่ธรรมชาติแต่ละหยดเกิดจากน้ำฝนหรือหิมะจากยอดเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส ที่ไหลผ่านชั้นแร่ลึกลงไปในภูเขาก่อนจะผุดขึ้นที่แหล่งน้ำแร่ แต่ละหยดใช้เวลาเดินทางยาวนานถึง 15 ปี อุดมด้วยแร่ธาตุสำคัญถึง 9 ชนิด,  ฟิจิ (Fiji)  น้ำแร่นำเข้ามาจากแหล่งน้ำใต้ชั้นหินลึก นำเข้าจากประเทศฟิจิ ซึ่งมีระบบนิเวศน์วิทยาที่สมบูรณ์และปราศจากมลพิษ เป็นต้น

สำหรับความเป็นไปได้หลังจากการค้นพบแหล่งน้ำแร่โซดาคุณภาพดีที่สุดในเมืองไทย บริเวณพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พื้นที่ที่ประสบปัญหาแห้งแล้งทุรกันดารมากที่สุดในไทย จะมีการต่อยอดป้อนสู่อุตสากรรมน้ำดื่มหรือไม่นั้น ยังคงต้องติดตามกันยาวๆ แต่สุดท้ายคงไม่สลักสำคัญเพราะหัวใจของการเจาะบาดาลก่อนค้นพบแหล่งน้ำแร่มหัศจรรย์แห่งนี้ เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของชาวบ้านที่ประสบภัยแล้งมาอย่างยาวนาน