ปธ.วิสาหกิจชุมชน ศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว ปลูกกัญชาต้นแรกที่เมืองกาญจน์ พร้อมต่อยอดทางธุรกิจ
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานวิสาหกิจชุมชน ศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา เราได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการปลูกกัญชาทางการแพทย์และการปลูกกัญชาต้นแรกของอำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และมอบใบอนุญาตครอบครองและปลูกกัญชากับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและวิสาหกิจชุมชน ณ ศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว หมู่ 4 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการปลูกกัญชาทางการแพทย์และการปลูกกัญชาต้นแรกของอำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้ เป็นการเปิดตัวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชาที่ได้รับใบอนุญาตครอบครองและปลูกกัญชากับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและวิสาหกิจชุมชน และเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการเพาะปลูกเพื่อผลิตกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นการดำเนินการตามโครงการปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ตามโครงการของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการแล้ว
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกับวิสาหกิจชุมชน จังหวัดกาญจนบุรีที่ได้รับใบอนุญาตรวม 8 แห่ง ที่จะได้รับทราบข้อมูลข้อแนะนำในการปลูก การครอบครอง และการรักษาผลผลิตให้กัญชามีสภาพสมบูรณ์ การแปรรูปโดยนักวิชาการเกษตร
ประเด็นแรก หลังจากได้รับใบอนุญาตให้ทำการปลูกและครอบครองแล้ว ทางวิสาหกิจชุมชนทั้ง 8 แห่งจะดำเนินการเพาะปลูกเมล็ด และนำเข้าไปอนุบาลในโรงเรือนเพื่อทำการปลูกตามข้อแนะนำของนักวิชาการเกษตรและทางกระทรวงเพื่อให้ได้ผลผลิตอย่างถูกต้องสมบูรณ์
ประเด็นที่สอง เมื่อได้ผลผลิตแล้ว จะทำการต่อยอดทางการแปรรูปในเรื่องของอาหาร โดย ราก อาจใช้ทำยาสมุนไพร ลำต้นทำผงปรุงรสอาหาร ส่วนใบ อาจนำไปต่อยอดทางธุรกิจ อาหาร ทำเครื่องดื่มผสมไซรัปกัญชา หรือนำใบไปทำเป็นชา กินเพื่อสุขภาพ หรือต่อยอดได้อื่นๆ ในเรื่องของการแปรรูปอาหารให้ขายได้ สำหรับ ราก ใบ กิ่ง ในการแปรรูปอาหารกับเครื่องดื่มเป็นส่วนหลัก
ประเด็นที่สาม เรื่องการต่อยอดทางธุรกิจของวิสาหกิจชุมชน ในเรื่องของการปลูกกัญชานั้น เมื่อวิสาหกิจชุมชนมีความเข้มแข็ง เรียนรู้การเพาะปลูกได้อย่างชำนาญ แล้วสามารถแปรรูปในรูปแบบของอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อทำเป็นสินค้าชุมชน วิสาหกิจชุมชนของเราจะร่วมกันต่อยอดในด้านของการสกัดกัน ปรุงยาตามตำรับที่ได้รับอนุญาตจากกรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ให้ปรุงยาตำรับเมตตาโอสถและการุณโอสถเพื่อรักษาประชาชน ในด้านของผู้ป่วยมะเร็ง และผู้ป่วยทางด้านระบบประสาท เพื่อช่วยกับทางรัฐบาลในการแพทย์แผนทางเลือกต่อไป
ดังนั้นตนมั่นใจว่า การได้มีประสบการณ์ หรือได้เรียนรู้การปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย และถูกต้องตามหลักการ วิชาการเกษตร เมื่อได้ผลผลิตออกมาในการแปรรูปในลักษณะของอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้า OTOP แล้ว ยังสามารถที่จะอบรม วิเคราะห์วิจัย ปรุงยา ตามตำรับแพทย์แผนโบราณ ทำให้การต่อยอดทางธุรกิจการปลูกกัญชานั้นมีความมั่นคงยั่งยืนสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างแท้จริง
สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกับวิสาหกิจชุมชน จังหวัดกาญจนบุรีที่ได้รับใบอนุญาตทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วย
1.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแก่งหลวง ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านแก่งหลวง ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 29/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 29/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
2.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวังเย็น ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านวังเย็น ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 30/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 30/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
3.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าหนองปรือ ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมุนไพรบ้านอดุลกาญจนกิจ ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 31/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 31/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
4.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าโป่ง ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนปลูกพืชสมุนไพรบ้านท่าโป่ง ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 32/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 32/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
5.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองหญ้า ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านหนองหญ้า ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 33/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 33/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
6.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านยางเกาะ ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านยางเกาะ ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 34/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 34/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
7.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลาดหญ้า ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านลาดหญ้า ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 35/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 35/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
8.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งเรือโกลน ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนเกษตรและปศุสัตว์บ้านท่ามะเดื่อ ใบอนุญาตแบบย.ส.4/5-2 หนังสือสำคัญมีไว้ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 36/2564 ลว.18 ม.ค.64 และหนังสือสำคัญผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ที่ 36/2564 (ปลูก) ลว.18 ม.ค.64
นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานวิสาหกิจชุมชน ศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การปลูกหลังจากนี้วิสาหกิจชุมชนจะปลูกภายใต้คำแนะนำของนักวิชาการเกษตรและ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเพื่อให้ได้ผลผลิตทางกัญชาที่มีสารสกัดสูง มีต้น ราก กิ่ง ดอก ใบ เป็นไปตามที่กำหนดเอาไว้ในรูปแบบของกัญชา
สำหรับการแปรรูป เมื่อกฎหมายปลดล็อคในเรื่องของราก ต้น ใบ กิ่งของกัญชาแล้ว วิสาหกิจชุมชนจะนำส่วนต่างๆ เหล่านี้ไปแปรรูปในด้านการทำอาหาร เช่น ราก ต้น อาจจะเอาไปทำผงปรุงรส หรือเรียกว่าผงนัว ส่วนใบนำไปประกอบอาหารหรือขายตามร้านอาหาร รวมถึงการตากอบทำชา จากใบกัญชาเพื่อส่งเสริมให้เป็นสินค้าโอทอป ที่มีการแปรรูปในด้านของเครื่องดื่ม ขนม รวมถึงอื่นๆ ที่ทำในรูปแบบของสินค้าพื้นเมือง โดยมีการควบคุมจากนักวิทยาศาสตร์และกระทรวงสาธารณสุข
การต่อยอดทางธุรกิจของกัญชาอย่างยั่งยืนและมั่นคง เราจะส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของวิสาหกิจชุมชนในด้านการปรุงยาตำรับต่างๆ ตามที่กรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้ประกาศให้เป็นตำรับยาสำหรับรักษาผู้ป่วย โดยเป็นตำรับเมตตากับตำรับการุณ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในกลุ่มโรคมะเร็งและโรคประสาท เพื่อช่วยราชการอีกทางหนึ่ง และหากวิสาหกิจชุมชนสามารถปรุงยาในตำรับ ต่างๆ ได้สำเร็จถูกต้องครบถ้วนจะเป็นการต่อยอดทางธุรกิจกัญชาที่มั่นคงยั่งยืน และเกษตรกรมีรายได้สมกับเป็นพืชเศรษฐกิจ ตามนโยบายของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดกาญจนบุรีที่รวมตัวกัน สร้างงานสร้างอาชีพ ไม่เป็นภาระต่อสังคม พร้อมช่วยเหลือสังคม