เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2565 ที่ ตำรวจภูธรภาค 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐมพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยพล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมารอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์,ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญผบก.ศฝร.ภ.7, พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ นวท.(สบ.5) ศพฐ.7, พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม, พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผลผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 3 ราย (1.) นายวี พิมพร อายุ 54 ปี, (2.) นายศักดา ทองไวย อายุ 47 ปี, (3.) นายบุญเจิด กระเจียงหอม อายุ 47 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พกพา”
ของกลางในคดี 1.) วัตถุระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล MK 2 จำนวน 1 ลูก, 2.) วัตถุระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล M26 จำนวน 1 ลูก, 3.) เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 217 นัด, 4.) เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 60 นัด, 5.) เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.65 มม.จำนวน 19 นัด, 6.) เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 x 39 มม. จำนวน 75 นัด, 7.) เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 x 45 มม.จำนวน 95 นัด, 8.) แม็กกาซีน 7.65 มม.จำนวน 2 อัน, 9.) แม็กกาซีน m16 จำนวน 2 อัน, 10.) กระเป๋าลายพรางทหารจำนวน 1 ใบ
ผบช.ภ.7 แถลงว่า คดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 03.50 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณหน้าร้านกุงอบภูเขาไฟ ถนนเพชรเกษม ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พบเห็นรถยนต์กระบะแค๊บ สีบรอนซ์เงิน ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บม 8866 กาญจนบุรี ขับขี่ผ่านมาโดยมี นายวี พิมพร เป็นผู้ขับขี่ มีนายศักดา ทองไวย และนายบุญเจิด กระเจียงหอม เป็นผู้นั่งโดยสารมาด้วย มีลักษณะท่าทางมีพิรุธอันควรสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบของกลางดังกล่าวข้างต้น จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นที่พักอาศัยของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยความยินยอมของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายและสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ในวันเวลาที่เกิดเหตุ นายศักดา ทองไวย ติดต่อและไปรับของกลางข้างต้นในพื้นที่จ.ปทุมธานี โดยมีผู้เกี่ยวข้องในคดีอีกจำนวน 2 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผล และติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป
เวลาต่อมา ผบช.ภ.7 ได้ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 4 ราย 1.) นายเตชิน ยุพการณ์ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 99 ม.15 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์, 2.) นายธนวัฒน์ ธรมบุตร อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 13 ม.13 ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์, 3.) นายปิยะศักดิ์ อำไพเพชร อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 233/61 ม.5 ถ.เลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี, 4.) นายคำเตือน เฉลียวพรหม อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 259 ม.1 ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่าย (โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย) ซึ่งยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์, ยาบ้า) เพื่อการค้าอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปพร้อมด้วยของกลาง 1.) ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์ ) ชนิดเกล็ดสีขาวใส จำนวน 17 ถุง น้ำหนักประมาณ 17 กิโลกรัม, 2.) ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 12 ถุง มียาบ้าบรรจุอยู่ ประมาณถุงละ 200 เม็ด รวมยาบ้า ประมาณ 2,400 เม็ด น้ำหนักประมาณ 192 กรัม, 3.) รถยนต์เก๋ง ยี้ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ภฮ 1741 กทม. จำนวน 1 คัน, 4.) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง
คดีนี้นั้น เหตุเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกันตั้งด่านตรวจ บริเวณหน้าด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ม.1 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ภฮ 1741 กทม. ขับมาตามถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ เมื่อถึงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจเห็นผิดสังเกตจึงเรียกให้หยุดพบ นายเตชิน ยุพการณ์ เป็นผู้ขับขี่ และ มีนายธนวัฒน์ ธรรมบุตร อายุ 23 ปี นั่งคู่มาในด้านหน้า นายปิยะศักดิ์ อำไพเพชร อายุ 29 ปี นั่งด้านหลังทางขวา และนายคำเตือน เฉลียวพรหม นั่งด้านหลังทางซ้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ลงจากรถ และขอทำการตรวจค้น
ผลการตรวจค้นพบด้านท้ายรถบริเวณที่เก็บของ พบกระสอบใส่เสื้อผ้าสีดำ ด้านในมี ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ ) ชนิดเกล็ดสีขาวใส จำนวน 17 ถุง น้ำหนักประมาณ 17 กิโลกรัม และ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงสีฟ้า แบบกดปิด – ดึงเปิด จำนวน 12 ถุง มียาบ้าบรรจุอยู่ ประมาณถุงละ 200 เม็ด รวมยาบ้า ประมาณ 2,400 เม็ด น้ำหนักประมาณ 192 กรัม จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
สอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.00 น.ได้รับการติดต่อจากกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีให้ไปรับยาไอซ์และยาบ้า ของกลางลำดับ 1 และ 2 จากพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อไปส่งยังจังหวัดสุราษฏร์ธานี จากนั้นได้ขับรถยนต์ของกลางลำดับที่ 3 เดินทางไปรับของยาไอซ์และยาบ้า ในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี เดินทางมาจนถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผลจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
จากนั้น ผบช.ภ.7 ได้มอบเงินสร้างขวัญกำลังใจ ให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน ที่มีปฏิภาณไหวพริบในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์” ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชน