นาทีระทึก สามีภรรยาขับรถมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ขากลับ เกิดไฟลุกไหม้ห้องเครื่องกลางถนน ก่อนจะลามวอดทั้งคัน
เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนสายเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก และยังลามไปไหม้ป่าหญ้าที่อยู่ข้างทาง ทำให้การควบคุมเพลิงทำได้ยาก ตำรวจต้องปิดการจราจรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงให้สงบเรียบร้อยก่อน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ แต่รถก็ได้รับความเสียหายทั้งคัน
นายบรรลือศักดิ์ แซ่ตั้ง อายุ 63 ปี ชาวกรุงเทพฯ เจ้าของรถหรู ซึ่งถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุเขาและภรรยา พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ และมาล่องแพพักผ่อนที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กำลังขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ โดยเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ ๆ รถเกิดอาการเร่งเครื่องไม่ขึ้น พยายามฝืนขับไปต่อ เพื่อจะเข้าไปเช็กอาการของรถในปั๊มน้ำมัน แต่จู่ ๆ ภรรยาสังเกตเห็นควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากใต้ท้องรถ จึงพยายามควบคุมรถเข้าจอดข้างทาง
ก่อนรีบไปเปิดฝากะโปรงรถดู และพบว่าใต้ฝากะโปรงรถเริ่มมีเพลิงลุกไหม้ห้องเครื่อง พยายามหาน้ำมาราดเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่ก็ไม่เป็นผล
ทั้งคู่ตัดสินใจทิ้งรถวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ก่อนที่จะมีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยฉีดน้ำดับเพลิงได้สำเร็จ แต่เพลิงไหม้เหลือเพียงแต่ซากเท่านั้น
ไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้มาจากอะไร แต่เมื่อดูร่องรอยบนถนนพบว่า มีรอยน้ำมันเครื่องรั่วมาเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร เมื่อประกอบกับสภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงกลางวันที่ร้อนจัด อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
ทั้งนี้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง