ข่าวเด็ด 7 สี – เกิดเหตุการณ์ระทึก ในจังหวัดสระแก้ว โดยทหารกัมพูชา ยศพันเอกเมาเครียด ถูกภรรยาบอกเลิก ขับรถฝ่าด่านชายแดน เข้ามาในอำเภอวัฒนานคร และเกิดคลุ้มคลั่งถือปืนอยู่กลางสี่แยกไฟแดง ตำรวจปิดล้อมนาน 17 ชั่วโมง ก่อนบุกขาร์จตัว
เป็นภาพเหตุการณ์ ขณะที่ตำรวจชาร์จตัวทหารยศพันเอก ชาวกัมพูชา ยืนถือปืนอยู่กลางถนน ในสภาพอิดโรย โดยชาร์จตัวได้สำเร็จ พร้อมกับยื้อแย่งปืนในมือเอาไว้ได้ เหตุเกิดช่วงบ่ายสองโมงวันนี้ (6 พ.ย.) ภายหลังเจ้าตัวเครียดถูกภรรยาบอกเลิก จึงได้ดื่มเหล้ามึนเมา และขับรถจากฝั่งกัมพูชาฝ่าด่านเข้ามาในไทย ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว และเข้าในอำเภอวัฒนานคร โดยตำรวจได้ปิดล้อมสกัดจับ บริเวณสี่แยกไฟแดง ขณะที่เจ้าตัวถือปืนอยู่ในรถ ไม่ยอมลง จนถึงช่วงบ่ายของวันนี้ (6 พ.ย.) ได้ลงจากรถเดินถือปืนไปมาอยู่กลางถนน จนกระทั่งสบโอกาสตำรวจได้บุกชาร์จตัวเอาไว้ได้พร้อมกับพาตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดได้สอบสวนดำเนินคดีกับเขาใน 6 ข้อหาด้วยกัน
ตร.เชียงใหม่ ดำเนินคดี สิบเอก เมาแล้วขับ ชนชาวบ้านเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน
ความคืบหน้าอุบัติเหตุ ทหารยศสิบเอก ซิ่งรถยนต์พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ขณะจอดติดสัญญาณไฟแดง บริเวณสี่แยกสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เมื่อช่วง 22.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ชายอายุ 49 ปี พร้อมกับภรรยาเสียชีวิต ส่วนลูกสาวอายุ 8 ขวบ บาดเจ็บสาหัส สาเหตุมาจากเมาแล้วขับ เนื่องจากตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้สูงถึง 413 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
“ทหารยศสิบเอก” เข้ามอบตัวตำรวจ สภ.ช้างเผือก โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ขับรถขณะเมาสุรา ขับรถโดยประมาท อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่นและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย รวมถึงข้อหาฝ่าฝืนสัญญาณจราจรด้วย
คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองไม่สำเร็จ ตกใจเผ่นหนี จ.ตรัง
เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างผอม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผิวดำ เดินถืออาวุธปืนเข้าไปที่ร้านทอง ภายในห้างค้าปลีก ในอำเภอเมือง จังหวัดตรัง ระหว่างที่มีลูกค้า 4-5 คน ยืนซื้อทองอยู่หน้าร้าน ซึ่งจากคลิปวงจรปิด ชายคนดังกล่าวถือปืนไว้ในมือขวา ซึ่งยกขึ้นมาอยู่ที่ระดับเอว ก่อนจะเดินออกจากร้านไป และเดินผ่านหน้าร้านไปอีกครั้ง ส่วนกล้องที่หน้าประตูห้าง ก็จับภาพของชายที่ก่อเหตุได้ ก่อนที่จะเดินออกจากห้างไป
ตำรวจสอบปากคำพยาน ทราบว่า ชายผู้ก่อเหตุได้ทำทีมาเลือกสร้อยข้อมือ และแหวนทองคำ บอกว่าจะใช้เป็นสินสอดแต่งงาน ใช้เวลาเลือกอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างนั้น ก็เดินเข้าเดินออกจากร้านหลายครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้ามาก่อเหตุ ก็ได้พยายามจะจับชายคนหนึ่งที่เดินอยู่หน้าร้านเป็นตัวประกัน แต่ชายคนดังกล่าวดิ้นหลุด วิ่งหนีไปได้ เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างเร่งตามหาตัวชายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดี
แมว เป็นเหตุ พี่แทงน้องชายบาดเจ็บสาหัส
ตำรวจรับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณห้องพัก แฟลตการเคหะทุ่งสองห้อง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คนแรกเป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ถูกตะปูทิ่มที่เท้า ชาวบ้านช่วยเหลือพาตัวส่งโรงพยาบาล อีกคนเป็นชาย อายุ 23 ปี ถูกแทงด้วยมีดบริเวณไหปลาร้าและหน้าท้อง ใกล้กันพบมีดทำครัวยาวประมาณ 8 นิ้ว ตกอยู่ นอกจากนี้ยังพบตัวชายอายุ 24 ปี พี่ชายแท้ ๆ ของผู้บาดเจ็บทั้งคู่อยู่ในห้อง จึงคุมตัวไปสอบสวน ที่ สน.ดอนเมือง
ชายอายุ 24 ปี ยอมรับใช้มีดแทงน้อยชายคนกลาง เพราะเข้าใจผิดคิดว่าน้องทำแมวที่เลี้ยงไว้ตาย จึงปะทะคารม และต่อยทำร้ายน้อง ฝ่ายน้องชาย ยืนยันแมวป่วยตาย แต่พี่ชายไม่เชื่อ จึงโต้กลับด้วยการขว้างปาสิ่งของใส่ พี่ชายจึงโมโหหยิบมีดมาแทงไป 2 ครั้ง ส่วนน้องชายคนเล็กบาดเจ็บ เพราะพยายามห้ามปรามพี่ ๆ ไม่ให้ทะเลาะกัน
ตำรวจสอบสวนทราบว่า พี่น้องคู่นี้ เป็นไม้เบื่อไม้เมา ทะเลาะกันประจำ จึงจะได้สอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนแจ้งข้อหาต่อไป
คนร้ายรีบคืนรถ จยย.ที่ลักไป หลังถูกโพสต์กดดัน จ.กาญจนบุรี
เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ที่เปิดเป็นร้านคอมพิวเตอร์ ใกล้กับ สภ.ท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ที่บันทึกภาพ คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถภจักรยานยนต์เข้าไปจิดบริเวณหน้าร้าน ก่อนที่ชายที่ซ้อนท้ายจะลงจากรถเดินเข้าไปลักเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านขี่หลบหนีไป ซึ่งถูกนำไปโพสต์ลงสื่อออนไลน์ และมีผู้เข้าไปชมและแชร์เป็นจนวนมาก กระทั่งวันนี้คนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ที่ขโมยไปกลับมาจอดคืนยังจุดที่ถูกขโมยไป คาดว่า คนร้ายน่าจะเกรงกลัวจะถูกจับกุมจึงรีบนำมาคืน ซึ่งเจ้าของรถจักรยานยนต์ ได้กล่าวขอบคุณพลังของโซเชียลที่ช่วยกันแชร์ และหาข้อมูล จนทำให้คนร้ายเกิดความหวาดกลัวและนำรถมาคืน แม้สภาพรถที่ได้กลับคืนมา จะมีความเสียหายบ้าง แต่ก็ยังดีที่ได้รถกลับคืนมา แต่แม้คนร้ายจะนำรถมาคืนแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ติดตามจับกุมตัว หนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุมาได้แล้ว และอยู่ระหว่างขอศาลออกหมายจับคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอีกคน
หญิงสาวแห่แจ้งความ ถูกร้านทำผมหลอกโอนเงินมัดจำ จ.ชลบุรี
หญิงสาวนับสิบราย ไปแจ้งความที่ สภ.พานทอง จังหวัดชลบุรี เพื่อให้ตำรวจติดตามตัวเจ้าของร้านทำผมแห่งหนึ่ง มาดำเนินคดี จากการที่หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินมัดจำค่าทำผมให้ แต่พอถึงวันนัดทำผม กลับไล่ลูกค้ากลับบ้าน บางรายถูกเลื่อนนัด ทำให้เสียเวลา ขอเงินมัดจำคืนก็บ่ายเบี่ยง และยังมีลูกค้าบางราย ที่ไปทำผมแล้วผมเกิดเสีย โดยที่ทางร้านไม่ยอมรับผิดชอบตามที่โฆษณาเอาไว้
ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ร้านทำผมแห่งนี้มีสาวประเภทสองเป็นเจ้าของร้าน เมื่อปีที่แล้วก็เคยเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้น ญาติเจ้าของร้านรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย และคืนเงินให้ลูกค้า ก็เลยไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี เบื้องต้น ตำรวจจะเรียกเจ้าของร้าน มาเจรจากับผู้เสียหาย หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดำเนินคดีฐานฉ้อโกง