สนามข่าว 7 สี – เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ชุดไล่ช้างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ต้องเร่งติดตามค้นหาช้างป่า 1 ตัว ที่ถูกรถกระบะชนจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะวิ่งเตลิดเข้าไปในป่า โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินเท้าตามหา ก็เกิดเหตุระทึก เมื่อช้างป่าตกใจจะวิ่งเข้ามาทำร้าย แต่เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นี่เป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ชุดไล่ช้างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และนักข่าว รวมกันกว่า 10 คน ที่ออกติดตามหาช้างป่าที่ถูกรถกระบะชนได้รับบาดเจ็บ และวิ่งหนีเข้าไปในป่า ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังออกตามหา กลับเจอเรื่องระทึก เมื่อช้างป่าได้พุ่งชนต้นไม้ที่ขวางหน้า เพื่อวิ่งเข้าหากลุ่มเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง และทำให้เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าไป จำนวน 3 นัด เมื่อช้างป่าได้ยินจึงตกใจและถอยร่นกลับเข้าป่าไป
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นจากการรับแจ้งว่า ช้างป่าที่ถูกรถกระบะชนนั้นได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาหน้าด้านขวา จึงได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ช่วยกันตามหาเพื่อนำตัวไปรักษา เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเดินเท้าตามหา จนกระทั่งไปพบช้างป่าอยู่ห่างจากจุดที่ถูกรถชนประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณถนนบ้านท่ามะนาว หมู่ 2 ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งช้างที่ได้รับบาดเจ็บยังไม่สามารถระบุเพศได้ ทราบเพียงว่าเป็นช้างป่าโตเต็มวัย อายุประมาณ 15-20 ปี หนักประมาณ 6-7 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นช้างที่ตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามหาด้วยการเดินไปตามร่องรอยของกิ่งไม้และต้นไม้ที่หักล้มลง ซึ่งเป็นร่องรอยของช้างป่า
จนกระทั่งเมื่อเจอช้าง เจ้าหน้าที่ก็ได้วางแผนว่าจะนำยาแก้อักเสบใส่ลงไปในผลไม้ ทั้งสับปะรด กล้วย ขนุน ไปไว้ที่แหล่งน้ำธรรมชาติ ที่อยู่ห่างจากจุดที่เจอล่าสุดไปประมาณ 800 เมตร เนื่องจากเจ้าหน้าที่คาดว่าช้างที่ได้รับบาดเจ็บยังไม่ได้กินน้ำมาตั้งแต่ช่วงเช้า แต่อุปสรรคที่สำคัญ คือ แหล่งน้ำบริเวณดังกล่าวมีช้างป่าอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามากินน้ำเช่นเดียวกัน หากช้างป่าตัวที่ได้รับบาดเจ็บไปถึงแล้วพบว่าช้างกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่แหล่งน้ำ คาดว่าช้างตัวนี้คงไม่กล้าที่จะลงไปอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากลงไปเชื่อว่าช้างคงจะทำร้ายกัน แต่ถ้าหากไปแล้วไม่พบ ช้างก็จะได้กินผลไม้ที่ใส่ยาเข้าไปถือว่าโชคดี ซึ่งหลังจากนี้จะจัดกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกให้ไปเฝ้าที่แหล่งน้ำ ส่วนชุดที่ 2 ให้เฝ้าอยู่ที่บริเวณนี้ เพื่อคอยสังเกตว่าช้างจะเดินไปทางไหน โดยให้ประสานกัน พร้อมฝากเตือนประชาชนขับรถด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำและเช้ามืด และขอให้สังเกตหากพบป้ายเตือนให้ระวังช้างป่า ก็ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด