กรณี นางสาวเม (นามสมมติ) เจ้าของรถเก๋ง เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่ารถเก๋งถูกคนร้ายขโมยไปจากบริเวณศาลเจ้าพ่อผาแดง ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนสายเลี่ยงเมือง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขณะจอดรถไว้ เพื่อลงไปไหว้พระราหูที่ศาลเจ้าพ่อผาแดง ต่อมาไปพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าว จมอยู่ที่คลองชลประทาน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ห่างจากจุดที่ถูกขโมยไปประมาณ 17 กิโลเมตร
ล่าสุดวันที่ 1 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังเทวาลัย ขุนด่านผาแดง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ทำพิธี และเป็นจุดที่รถเก๋งถูกขโมย โดยมีศาลาบูชาเทวรูป จำนวน 2 ศาลา ซึ่งด้านในอยู่ติดภูเขา จึงไม่มีกล้องวงจรปิด
ทีมข่าวคุยกับนางสาวเม (นามสมมติ) เจ้าของรถเก๋ง เล่าให้ฟังว่า ในวันที่ 30 มีนาคม 65 เวลาประมาณ 20.50 น. ตนเดินทางมาที่เทวาลัย ขุนด่านผาแดง พร้อมกับเพื่อน ๆ อีก 2 คน ซึ่งตนเป็นคนขับ เพราะตั้งใจว่าจะพากันมาไหว้ราหู เมื่อมาถึงก็จอดรถด้านในเทวาลัยตามปกติ มีลูกศิษย์อาจารย์จ๊อด เจ้าของเทวาลัย แห่กันมาเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ตนจะนำผ้ายันต์ซึ่งได้รับจากอาจารย์ไปเก็บไว้ที่รถ และมานั่งพูดคุยกับอาจารย์ต่ออีกสักพัก
ขณะนั้น ตนไม่ได้ยินเสียงรถขับออกไปแต่อย่างใด จากนั้นตนก็จะนำของไปเก็บไว้ที่รถอีกครั้ง และจะนำของไหว้ราหูที่เตรียมไว้ลงจากรถ แต่กลับไปพบว่ารถเก๋งของตนได้หายไปไหนไม่รู้ จึงรีบไปบอกอาจารย์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เมื่อผ่านไปประมาณ 30 นาที ตนติดตามจากไลฟ์สดของกู้ภัย ขุนรัตนาวุธ ว่ามีผู้พบรถเก๋งสีดำตกลงไปในคลองชลประทาน อ.ท่าม่วง จึงไปติดตามภารกิจนำรถเก๋งขึ้นจากคลองในช่วงเช้าของวันต่อมา
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุตนก็เข้าใจว่าเป็นโจร ก่อจนะทราบลักษณะรูปพรรณสันฐานของผู้ก่อเหตุ คาดว่าอาจจะเป็นนายบอย (นามสมมติ) อดีตหนุ่มที่เคยศึกษาดูใจกันเมื่อประมาณ 1 ปี แต่เลิกติดต่อกันแล้ว 4 เดือน เพราะเขามีลักษณะนิสัยเจ้าอารมณ์ ค่อนข้างประชดประชันให้ตนอยู่เสมอ ตนจึงตัดสินใจไม่สานความสัมพันธ์อีกต่อไป หากเขาเป็นผู้ก่อเหตุจริง ตนมองว่าเขาพยายามเรียกร้องความสนใจให้ตนกลับไปคบหาเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด และไม่ถอนแจ้งความอย่างแน่นอน
นางสาวเม ยังเผยด้วยว่า ตนยอมรับในระหว่างที่ตนศึกษาดูใจกัน ฝ่ายชายเคยนำรถเก๋งคันนี้ไปซ่อม จึงมีกุญแจอีกหนึ่งชุด ตนก็เริ่มมาเอะใจช่วงที่ตำรวจถามว่ามีใครมีกุญแจอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนมีความเชื่อว่าในวันที่เกิดเหตุเป็นวันเดียวกับที่ราหูเข้า จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นดวงของตนที่ถึงฆาตหรือไม่ ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตนเพิ่งเคยเดินทางมาที่เทวาลัยแห่งนี้เป็นครั้งแรก
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายเฉลิมชาติ กากะนิก หรือ อาจารย์จ๊อด อายุ 60 ปี เจ้าของเทวาลัย กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ นางสาวเม ติดต่อเข้ามาเนื่องจากเห็นข่าวงานไหว้ราหูของเทวาลัย ผ่านทางเฟซบุ๊ก จึงเข้ามาถึงในเวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อนางสาวเม มาถึงตนสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะประสบเคราะห์ร้าย จึงสวดภาวนาแก้ไขให้ในใจโดยที่นางสาวเมยังไม่ทราบ เพราะตอนแรกตนไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นทันทีแบบนี้ ตนก็คิดว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ เพราะรถเก๋งหายไปประมาณ 30 นาที ก็ทราบข่าวว่ารถอยู่ที่ไหน แต่ตนยืนยันว่าไม่อยากให้ทุกคนงมงายในเรื่องไสยศาสตร์
“พอเช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ทำพิธีปิดประตูน้ำ บังเอิญว่าวันนั้นมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ช่วงที่รถตกลงไปในคลองด้วย ส่วนพิธีไหว้ราหู ก็เป็นการไหว้ราหูพร้อมกันจำนวนมาก ส่วนใครดวงไม่ดีก็แก้ไขให้ทันทีด้วยการภาวนาในใจ นางสาวเม ดวงถึงฆาตหากเขาไปอยู่ในรถด้วยคงเป็นอันตรายแล้ว แต่นี่เสียเพียงทรัพย์สิน แต่ตัวเองปลอดภัย” นายเฉลิมชาติ กล่าว
ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานของนางสาวเม จึงทราบที่อยู่บ้านของอดีตหนุ่มคนดังกล่าว และไม่ค่อยสุงสัยกับใคร ทีมข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของชายนี้ พบเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่
นางมะรุม (นามสมมติ) แม่ของชายคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ลูกชายของตนทำงานอยู่ที่หน่วยงานราชการจริง แต่ตนไม่รู้จักนางสาวเม และลูกชายก็ยังไม่มีครอบครัว ไม่เคยพาเพื่อนร่วมงานมาที่บ้านด้วย ขณะนี้ลูกชายยังไม่กลับจากทำงาน แต่ละวันจะกลับบ้านไม่ตรงเวลา โดยช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ลูกชายไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง ตนก็อยู่แต่บ้าน จึงไม่ทราบเรื่องใด ๆ
นอกจากนี้ ทีมข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน และยังไม่ยืนยันว่านายบอย (นามสมมติ) ที่เจ้าของรถเก๋งสงสัยจะเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริงหรือไม่ อีกทั้งยังไม่ได้เรียกตัวเข้ามาสอบปากคำ ดังนั้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป